เริ่มแล้ว! หาเสียงมาราธอน 10 วันสุดท้าย 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืนของพรรคประชาชาติ “ทวี” ประกาศเวทีแรก ถล่ม “จีที 200” ต้นตอความอยุติธรรม ชาวบ้านเดือดร้อน อดีตผู้ว่าฯคนปัตตานีโดนสั่งจำคุก แต่อดีตบิ๊กทหารในรัฐบาลลอยนวล ด้านประชาธิปัตย์ “ชวน” นำทีมบุกโก-ลก ซัดบางพรรคหาเสียงโปรยเงินทำชาติล่มจม ค้านยกหนี้ กยศ. บ่มเพาะนิสัยคดโกง
พรรคประชาชาติเปิดฉากการปราศรัยแบบมาราธอน 10 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง เปิดเวทีทุกวัน วันละหลายเวที เวลา 20.00-24.00 น.ของทุกคืน
วันแรก 4 พ.ค.66 เปิดปราศรัย 2 เวที ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เวทีแรก บริเวณสนามศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เมาะมาวี อ.ยะรัง เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ หรือ เจ๊ะมุ ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 2 เขต 4 (อ.ยะรัง ทุ่งยางแดง แม่ลาน) ของพรรคประชาชาติ
เวทีที่ 2 บริเวณสนามหน้าโรงเรียนรัศมีสถาปนาบาตัสกูโบ ต.สาคอบน อ.มายอ เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 เบอร์ 6 ของพรรคประชาชาติ โดยเขต 5 ครอบคลุมพื้นที่ อ.ยะหริ่ง อ.มายอ รวม 2 เวทีมีประชาชนในพื้นที่แห่ไปฟังปราศรัยนับหมื่นคน
การปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาชาตินำทีมโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค เริ่มต้นด้วยการอ่านอัลกุรอาน ตามด้วย ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคสลับกันขึ้นเวที มีการแนะนำวิธีการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ บัตรสีม่วงเลือก ส.ส.เขต และบัตรสีเขียวเลือกพรรค เบอร์ 11 พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนช่วยกันเลือกพรรคประชาชาติเข้าไปเป็นรัฐบาล เพื่อผลักดันสวัสดิการถ้วนหน้าตั้งแต่เกิดในครรภ์มารดาจนถึงกุโบร์
@@ ถล่ม “จีที 200” ความอยุติธรรมของคนชายแดนใต้
พ.ต.อ.ทวี ปราศรัยตอนหนึ่งว่า “ความอยุติธรรมที่ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ คือ การใช้ จีที200 การตัดสินคดีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นคนมุสลิม กลายเป็นประเด็นที่หลายคนนำมาคิด เพราะเราไม่เห็นเลยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอนุมัติเกือบ 300 เครื่อง รวมถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อนุมัติในฐานะผู้บัญชาการทหารบกในอดีต และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็อนุมัติหลายร้อยเครื่อง กองทัพบกซื้อ 700 เครื่องไม่โดน มหาดไทยอนุมัติในฐานะผู้ว่าฯ 1-2 เครื่องโดน คุณหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยังพูดว่าทำไมความยุติธรรมสองมาตรฐาน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น”
“ถ้าสังคมใดความยุติธรรมไม่มี อย่าหวังว่าจะมีความสงบ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องคืนสิทธิ์ คืนเกียรติยศ ศักดิ์ศรีมาให้ประชาชนชายแดนใต้”
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า พรรคประชาชาติเป็นพรรคการเมืองเดียวที่เป็นของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกล่าวถึงนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาถึงกุดบร์ ทำให้ประชาชนปรบมือพอใจ พร้อมตะโกนสนับสนุนพรรคให้เป็นรัฐบาล
หลังจบปราศรัยได้เกิดปรากฏการณ์คนแห่ขอถ่ายรูปกับ พ.ต.อ.ทวี และแกนนำพรรคหลายคน จนแทบเดินออกไปขึ้นรถกลับไม่ได้
@@ ลุยหาเสียงสุไหงปาดี ประกาศให้สิทธิ์ที่ดินทำกิน ไม่ใช่เช่าคนอื่น
ก่อนหน้านั้น ในช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี นำผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 3 (อ.สุไหงปาดี อ.แว้ง อ.เจาะไอร้อง) คือ นายมูฮัมหมัดรอมือลี อาแซ เบอร์ 5 และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ขึ้นปราศรัยบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี โดยมีพี่น้องประชาชนชาวสุไหงปาดีทั้งไทยพุทธและมุสลิมให้ความสนใจมายืนฟังกันหลายร้อยคน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวตอนหนึ่งว่า เราต้องสร้างรัฐสวัสดิการ ให้เงินค่าเลี้ยงดูบุตรแก่พ่อแม่ โดยเด็กทารกแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 ขวบต้องได้ 4,500 บาทต่อเดือน และเด็กอายุ 7 ขวบไปจนถึง 15 ปี ต้องได้เดือนละ 3,000 บาท นี่ไม่ใช่เป็นเงินประชานิยม แต่เป็นรัฐสวัสดิการ คือทุกคนต้องมีสิทธิ์เสมอกัน เราต้องการสร้างคน เพราะเราต้องร่วมกันสร้างคนให้มีอนาคตที่ดี
ส่วนปัญหาใหญ่ของเกษตรกรคือไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย พรรคประชาชาติจึงมีนโยบายที่จะทำให้เกษตรกรทุกครัวเรือนต้องมีกรรมสิทธิ์และสิทธิ์ในที่ดินทำกินอย่างน้อยครอบครัวละ 20 ไร่ เพราะถ้าไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง เราจะไม่สามารถทำเกษตรกรรมเพื่อเลี้ยงชีพได้เลย เราจะเป็นเพียงแค่ลูกจ้าง หรือเป็นแค่ผู้อาศัยในที่ดินของรัฐ
ดังนั้นเราต้องแก้ปัญหาป่าไม้และที่ดินแบบเบ็ดเสร็จ คนนราธิวาสจำนวนมากอาศัยอยู่บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโดสุไหงปาดี ได้รับผลกระทบจากกฎหมายอุทยานแห่งชาติ เราต้องแก้กฎหมาย ซึ่งเราได้ยื่นเสนอร่างกฎหมายสู่สภาแล้ว และเราต้องทำต่อไปให้สำเร็จ ชาวสวนยางต้องมีที่ดินของตัวเอง ไม่ใช่ไปอาศัยที่ดินคนอื่นหรือรับจ้างคนอื่นกรีดยาง
@@ “ชวน” นำทีมบุกโก-ลก อัดบางพรรคโปรยยาหอมทำชาติล่มจม
อีกพรรคการเมืองหนึ่งที่ปักหลักหาเสียงอยู่ในพื้นที่ชายแดนใต้ คือพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมโดย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายกฯ 2 สมัย พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และ ผอ.เลือกตั้งของพรรค ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “ดร.เอ้” อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 รวมทั้ง น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ “มาดามเดียร์” ได้เดินเท้าลงพื้นที่ตลาดสดเก็นติ้ง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อช่วย นายเมธี อรุณ หรือ “เมธี ลาบานูน” ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 2 เบอร์ 1 ขอเสียงจากประชาชน
จากนั้นนายชวนและคณะได้ขึ้นรถบรรทุกสิบล้อของพรรคไปตามถนนภายในเขตเทศบาล เพื่อทักทายพี่น้องประชาชนและขอการสนับสนุน สลับกับการปราศรัย ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากคนในพื้นที่อย่างมาก
นายชวน ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคต่างๆโปรยยาหอมว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะได้เบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ถึง 5,000 บาท ตามอายุที่มากขึ้น ทั้งที่นักเศรษฐศาสตร์ได้ประเมินคำนวณแล้ว ถ้าหากเป็นเช่นนี้ประเทศชาติจะล่มจม หากเพิ่มเติมได้ต้องเพิ่มทีละ 200-300 บาท ขึ้นอยู่ที่รายได้และเศรษฐกิจประเทศ
“บางพรรคการเมืองมีการหาเสียงเรื่องเงินกู้ กยศ. ที่ต่อไปไม่ต้องคืนเงินนั้น มันเป็นการสร้างค่านิยมให้คนคดโกง ท่านเรียนจบก็ต้องจ่ายเงินกู้ตามสัญญา เพราะเงิน กยศ. 2 แสนกว่าล้านบาทนี้ ต้องใช้หมุนเวียนในการศึกษา รัฐบาลจะไม่มีการสนับสนุนวงเงินเพิ่มเติมแล้ว กู้ไปเรียนแล้วต้องจ่าย หากกู้แล้วไม่ต้องจ่าย เหมือนกับสนับสนุนเยาวชนให้เริ่มเป็นคนมีนิสัยคดโกงตั้งแต่วัยเรียน เมื่อเติบโตขึ้นเยาวชนพวกนี้จะเป็นพลเมืองดีของประเทศได้อย่างไร” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว