กลุ่มลูกเหรียงนำเสนอผลงาน 20 ปี Go Together Be More หนุนเสริมศักยภาพองค์กรด้านเด็กและสตรีชายแดนใต้ ขณะที่ เลขาธิการ ศอ.บต. หวังภาคประชาสังคมเป็นโซ่ข้อกลางเติมเต็มช่องว่างแก้ไขปัญหาทุกมิติ
เมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (กลุ่มลูกเหรียง) จัดเวทีนำเสนอผลงาน 20 ปี Go Together Be More ที่ได้ดำเนินการระหว่างปี 2563-2565 ภายใต้โครงการ Together และ USAID เพื่อเสริมสร้างศักยภาพองค์กรด้านเด็ก เยาวชน สตรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หนุนเสริมการทำงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อความยั่งยืนและลดความขัดแย้ง
โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต. ) เป็นประธานในพิธีเปิด และพบปะกลุ่มภาคประชาสังคมเยาวชนกลุ่มลูกเหรียง พร้อมด้วยผู้บริหาร USAID นายกเทศบาลนครยะลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้แทนภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ที่ลานกิจกรรมบ้านลูกเหรียง อ.เมือง จ.ยะลา
พล.ร.ต.สมเกียรติ กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาความรุนแรงที่ทำให้หลายครอบครัวเกิดความสูญเสีย ปัญหาโรคระบาดที่มีมากว่า 2 ปี ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ตกต่ำลง ตลอดจนปัญหาความยากจนและสภาพสังคมวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ก่อให้เกิดผลกระทบตามมากับเด็ก เยาวชนตลอดจนสตรี ทำให้หน่วยงานภาครัฐมีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกช่วงวัยให้ได้รับการช่วยเหลือครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนงานร่วมกับภาคประชาสังคมที่จะเป็นข้อต่อและโซ่ข้อกลางเติมเต็มช่องว่างที่เป็นส่วนสำคัญในการเดินหน้าแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนกาคใต้ต่อไป
อีกทั้ง ศอ.บต.ได้มีศูนย์ประสานงานเด็กและสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการมีส่วนร่วมกับภาคประชาสังคมแก้ไขปัญหาด้านเด็กและสตรีในพื้นที่ตามมาตรการคุ้มครองเด็กและสตรีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อว่าหากทุกภาคส่วนช่วยกัน ปัญหาที่เด็กและสตรีกำลังเผชิญจะสามารถแก้ไขได้โดยเร็ว
สำหรับผลงาน 20 ปี Go Together Be More ที่ได้ดำเนินการระหว่างปี 2563-2565 ประกอบด้วย การรายงานสถานการณ์เด็กและสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลักสูตรเสริมสร้างความเข้าใจเรื่องสิทธิเต็กและเพศสภาวะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการเปิดตัววิทยากรกระบวนการหลักสูตรเสริมสร้างความเข้าใจเรื่องสิทธิเด็กและเพศสภาวะในพื้นที่จังหวดชายแดนภาคใต้
น.ส.วรรณกนก เปาะอิแตดาโอะ นายกสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ กลุ่มลูกเหรียง กล่าวว่า ขอบคุณ USIAD ที่สร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กร เพื่อเป็นสะพานเชื่อมการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาคีและหน่วยงานภาครัฐที่ทำงานด้านเด็กและสตรี จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั้ง 3 ผลงาน รวมถึงขอบคุณ ศอ.บต. กอ.รมน. และอีกหลายหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือจนนำไปสู่การสร้างทรัพยากรที่จะช่วยเหลือและพัฒนาเด็กสตรีในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
"เชื่อว่าเยาวชนในวันนี้คือเมล็ดพันธุ์ที่จะเปลี่ยนเป็นต้นไม้ใหญ่ เกิดประโยชน์แก่ผู้คนที่แข็งแรง แผ่ขยายกิ่งก้านสาขาให้ผลผลิตและร่มเงาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ต่อไป"
ขณะที่ นางซารีนา เจ๊ะเลาะ ประธานชมรมผู้นำมุสลีมะห์จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นผู้นำองค์กรที่ทำงานด้านการช่วยเหลือผู้หญิงมาตลอด ทักษะการเป็นวิทยากรหลักสูตรที่มีเนื้อหาด้านการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายและการเสริมสร้างความเข้มแข็งต่อเด็กและผู้หญิง เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนทำงานที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ปัญหาหลายรูปแบบ หลักสูตรนี้จะช่วยให้เด็ก ผู้หญิง และองค์กรที่ทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำงานได้อย่างเข้าใจและมีประสิทธิภาพ สามารถทำงานเป็นเครือข่ายอย่างเข้มแข็งเพื่อร่วมกันเป็นพลังในการลดความรุนแรงและความขัดแย้งในหลายมิติ