“บิ๊กป้อม” ประชุม กพต. ติดตามโครงการพัฒนาชายแดนภาคใต้ เดินหน้าสานสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ขณะที่ มท.2 เผย ผ่านงบกว่า 250 ล้าน พัฒนาจุดเชื่อมไทย-มาเลย์ ด่านสะเดา
เมื่อเวลา 10.00 น.วันพฤหัสบดีที่ 31 มี.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดใช้แดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 2/2565 ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
โดย พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำ กพต.และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บูรณาการเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม โดยเน้นสร้างการมีส่วนร่วมของผู้นำท้องถิ่นและภาคประชาสังคม ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาล คือประชาชนได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในพหุวัฒนธรรมที่ดีงามร่วมกัน อย่างเท่าเทียม เสมอภาค และเกิดสันติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป
ในที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ผ่านโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา อ.เทพา จ.สงขลา โดยกรมเจ้าท่าเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก เพื่อแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณปากน้ำเทพาและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รองรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์อันดีไทย-ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืน และรับทราบความคืบหน้าโครงการเมืองปศุสัตว์ภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งจำนวน 25 กลุ่ม สมาชิกจำนวน 750 คน
ขณะเดียวกัน ได้พิจารณาเห็นชอบ โครงการเสริมสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนาเพื่อสืบสานและรักษสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2565-2570 โดยดำเนินการในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา (อ.จะนะ, เทพา, นาทวี, สะบ้าย้อย) และเห็นชอบโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประวัติศาสตร์ อุโมงค์ใหญ่ "ต้าสวุ่ยต้อ" ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่
และเห็นชอบโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตำของมาเลเซีย เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.สะเดา จ.สงขลา
นอกจากนั้นยังให้ความเห็นชอบโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย และปฏิบัติธรรม ณ สังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย-เนปาล รวมทั้งเห็นชอบโครงการจ้างบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ให้ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมายและชุมชนเมือง เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการแก้ไขปัญหาและสร้างสันติสุขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการคัดเลือกเยาวชนที่จบการศึกษาปริญญาตรี และบัณฑิตจากครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบหมู่บ้านละ 1 คน เพื่อทำหน้าที่บัณฑิตอาสา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 เป็นต้นมา โดยจ้างบัณฑิตอาสาเพิ่มอีกจำนวน 339 คน ซึ่งจะทำให้มีบัณฑิตอาสา รวมทั้งสิ้น 2,458 คน
@@ เทงบ 250 ล้าน พัฒนาจุดเชื่อมไทย-มาเลย์ ด่านสะเดา
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ในฐานะกรรมการ กพต. กล่าวเสริมว่า ที่ประชุมได้อนุมัติหลักการโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ (ฝั่งไทย) กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ฝั่งประเทศมาเลเซีย โดยมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมสนับสนุนดำเนินการ
พร้อมทั้งอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณสนับสนุนโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ - ด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเขีย จำนวน 251.9 ล้านบาท โดยมอบหมาย อบจ.สงขลาไปปรับแผนการดำเนินงานและการใช้จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 หากงบประมาณไม่เพียงพอ ให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามขั้นตอนต่อไป
“การอนุมัติครั้งนี้ เป็นการพิจารณาต่อเนื่องจากมติที่ประชุม กพต.เมื่อวันที่ 28 ต.ค.64 ซึ่งมอบหมาย ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) รับข้อสังเกตของผมไปพิจารณา ว่าปัจจุบันด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้ดำเนินการก่อสร้างมาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากปัญหาจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียยังไม่ได้ข้อยุติ ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับได้ ประกอบกับเป็นปัญหาค่าใช้จ่ายส่วนของการบำรุงรักษาที่จะเพิ่มมากขึ้น หากไม่ดำเนินการใช้ให้เกิดตามวัตถุประสงค์ จึงให้เร่งรัดผลักดันการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยด่วนที่สุด” รมช.มหาดไทย กล่าว