"...การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของพลเอก ปรีชา ในครั้งนี้กลับไม่ปรากฏข้อมูลหนี้สินในหน้าสรุปรายการบัญชีทรัพย์สิน หรือหน้าหลัก ซึ่งคล้ายกับครั้งเปิดเผยรายการบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี 2557 ที่รายการเงินฝากในหน้าหลักไม่ตรงกับรายการเงินฝากในหน้ารายละเอียดประกอบรายการเงินฝาก แม้ว่าในครั้งนี้จำนวนหนี้สินจะมีไม่มากก็ตาม..."
สืบเนื่องสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินโดยสรุปของอดีตสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 5 ราย ซึ่ง 1 ใน 5 เป็น พลเอกปรีชา จันทร์โอชา น้องชายพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยพลเอก ปรีชา และนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 150,218,837 บาท ไร้หนี้สิน
สำนักข่าวอิศรารายงานข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนรายละเอียดทรัพย์สินของพลเอก ปรีชา และนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา คู่สมรส ดังนี้
พลเอก ปรีชา แจ้งมีทรัพย์สิน 58,290,212 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 8 บัญชี รวมมูลค่า 51,153,879 บาท เงินลงทุน 2 รายการ ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ และทุนเรือนหุ้นสหกรณ์กองทัพภาคที่ 3 รวมมูลค่า 1,616,985 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,112,224 บาท ทรัพย์สินอื่น ได้แก่ ปืน 1 กระบอก พระเครื่องชุดเบญจภาคี 6 องค์ รวมมูลค่า 5,030,000 บาท
ส่วนนางผ่องพรรณ แจ้งมีทรัพย์สิน 91,928,625 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 9 บัญชี รวมมูลค่า 55,567,772 บาท เงินลงทุน 1 รายการ ได้แก่ ทุนเรือนหุ้นสหกรณ์กองทัพภาคที่ 3 จำนวน 1,000 บาท ที่ดิน 7 แปลง ในจังหวัดพิษณุโลก 5 แปลง และจังหวัดเชียงราย 2 แปลง รวมมูลค่า 12,100,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด 1 หน่วยในจังหวัดเชียงใหม่ และบ้าน 1 หลังในจังหวัดพิษณุโลก รวมมูลค่า 15,640,000 บาท ยานพาหนะ รถยนต์ 4 คัน รวมมูลค่า 8,090,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 129,853 บาท ทรัพย์สินอื่น ได้แก่ เครื่องประดับสตรี 1 ชิ้น 400,000 บาท
นอกจากนี้ในหน้ารายละเอียดประกอบรายการเงินเบิกเกินบัญชี พลเอก ปรีชา ระบุมีเงินเบิกเกินบัญชี 1 บัญชี จำนวนเงินรวม 1,567 บาท ส่วนนางผ่องพรรณ ระบุมีเงินเบิกเกินบัญชี 3 บัญชี จำนวนเงินรวม 34,596 บาท
นอกจากนี้แล้วสำนักข่าวอิศรายังสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายการทรัพย์สินและหนี้สินของพลเอก ปรีชา ในช่วงอดีต พบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
@ เคยถูกกล่าวหาปมเงินฝากภรรยา ป.ป.ช.แจงไม่จงใจยื่นเท็จ
ครั้งที่ 1 : ในปี 2557 สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อครั้ง พล.อ.ปรีชา ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ในหน้าสรุปรายการทรัพย์สิน (หรือหน้าหลัก) แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 79,821,468 บาท ไม่มีหนี้สิน โดยระบุว่ามีเงินฝาก 42,051,468 บาท ส่วนนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ไม่มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก แต่ในหน้ารายละเอียดประกอบรายการเงินฝากแจ้งว่า มีบัญชีเงินฝาก 10 บัญชี รวมมูลค่า 89,048,764 บาท แบ่งเป็นของ พล.อ.ปรีชา 5 บัญชี 42,051,468 บาท และของนางผ่องพรรณ เป็นบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 จำนวน 5 บัญชี 46,997,296 บาท ขณะเดียวกัน พล.อ.ปรีชา ได้ระบุบัญชีเงินฝากกองทัพภาคที่ 3 ไว้ในเอกสารประกอบ แต่ไม่ได้ระบุไว้ในหน้าหลัก รวมถึงขณะนั้น พล.อ.ปรีชา พ้นตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 ไปดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.)
ต่อมาปี 2558 นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. (ในขณะนั้น) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณี พล.อ.ปรีชา ไม่ระบุรายการเงินฝากของคู่สมรส ไว้ในหน้าหลักนั้น ไม่ได้เป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามมาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ส่วนกรณีเงินฝากของกองทัพ พล.อ.ปรีชา ได้แสดงบัญชีเงินฝากของหน่วยงานซึ่งมีอำนาจสั่งจ่ายเพื่อใช้ในกิจการของราชการไว้ในเอกสารประกอบ มิได้แสดงในรายการทรัพย์สินว่าเป็นทรัพย์สินประเภทเงินฝากของตนแต่อย่างใด จึงถือได้ว่า พล.อ.ปรีชา ได้แสดงรายการทรัพย์สินถูกต้องแล้ว (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ป.ป.ช.ยัน“ปรีชา”ยื่นทรัพย์สินถูกต้อง! ปมใส่เงินฝาก“เมีย-กองทัพภาค 3”)
อย่างไรก็ดีเงื่อนปมสำคัญที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ตรวจสอบต่อ คือ กรณีนางผ่องพรรณ แจ้งในบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี 2557 และแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อปี 2556 ระบุว่า ไม่มีรายได้และไม่ได้ประกอบธุรกิจแต่อย่างใด แต่ในเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 ของนางผ่องพรรณ มีเงินฝากรวมกันถึง 58 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนในช่วงปี 2557 หลายสิบล้านบาท (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 2 เงื่อนปม ป.ป.ช.ไม่สอบ‘เมียปรีชา’ เงินหมุนเวียนในบัญชีหลายสิบล.ไร้รายได้-ธุรกิจ?)
@ ปมบ้านพัก จ.พิษณุโลก บัญชีเงินฝาก เจ้าตัวแจงไม่มีเจตนาปกปิด-ป.ป.ช.มีมติไม่จงใจ
ครั้งที่ 2 : ในปี 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหาแก่ พลเอก ปรีชา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม และกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ว่าจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเท็จและเอกสารประกอบ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา พลเอก ปรีชา ในส่วนของการมิได้แจ้งถือครองบ้านใน จ.พิษณุโลก รวมถึงข้อมูลบัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ ภรรยา
ทั้งนี้พล.อ.ปรีชา เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับตีพิมพ์วันที่ 28 ธ.ค. 2559 กรณีเรื่องบ้านที่ จ.พิษณุโลก ว่า บ้านหลังดังกล่าวปลูกบนที่ดินประมาณ 1 ไร่เศษ ได้ที่ดินมาตั้งแต่ปี 2554 และเตรียมจะดำเนินการแจ้งต่อ ป.ป.ช. ไม่ได้มีเจตนาปกปิด
อย่างไรก็ดีสำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า รายการที่ดินที่ พล.อ.ปรีชา แจ้งกรณีเข้ารับตำแหน่ง สนช. เมื่อปี 2557 นั้น มีจำนวน 12 แปลง เป็นของนางผ่องพรรณทั้งหมด โดยที่ดินใน จ.พิษณุโลก 10 แปลง ได้มาเมื่อวันที่ 5 และ 9 มิ.ย. 2557 รวมมูลค่า 6 ล้านบาท และไม่มีที่ดินแปลงไหนได้มาเมื่อปี 2554
ต่อมาที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติ 8 ต่อ 1 เสียง เห็นว่า พล.อ.ปรีชา ไม่ได้จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเท็จและเอกสารประกอบ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ จำนวน 7 รายการ เช่น กรณีมิได้แจ้งถือครองบ้านใน จ.พิษณุโลก รวมถึงข้อมูลบัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา โดย กรรมการป.ป.ช. เสียงข้างน้อย 1 เสียง คือ นางสาวสุภา ปิยะจิตติ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.เสียงข้างมากเห็นว่า พล.อ.ปรีชา ไม่ได้จงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ เพราะเปรียบเทียบทรัพย์สินที่มีกับที่ไม่แจ้งห่างกันมาก เงินที่เอามาซื้อทรัพย์สินที่ไม่ได้แจ้ง เป็นเงินที่มีมาก่อนที่มีหน้าที่ต้องแจ้ง และเป็นเงินของลูกซึ่งไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินด้วย (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : พล.อ.ปรีชา รอด! ป.ป.ช.ลงมติ 8-1 ไม่ได้จงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ)
*******
เหล่านี้ คือ ข้อมูลรายการทรัพย์สินของพลเอก ปรีชา ที่สำนักข่าวอิศรารายงานให้สาธารณชนได้รับทราบโดยทั่วกัน
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของพลเอก ปรีชา ครั้งล่าสุดนี้กลับไม่ปรากฏข้อมูลหนี้สินในหน้าสรุปรายการบัญชีทรัพย์สิน หรือหน้าหลัก ซึ่งคล้ายกับครั้งเปิดเผยรายการบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี 2557 ที่รายการเงินฝากในหน้าหลักไม่ตรงกับรายการเงินฝากในหน้ารายละเอียดประกอบรายการเงินฝาก แม้ว่าจำนวนหนี้สินจะมีไม่มากก็ตาม