พบอีก 6 ผู้สมัคร ส.อบจ.ขาดคุณสมบัติ โดนคดีพนัน-ฉ้อโกง-ลักทรัพย์-ผู้ช่วย ส.ส.ด้วย

กกต.ลุยเช็คคุณสมบัติผู้สมัครนายก-ส.อบจ. ทั่วประเทศ พบมีอีก 6 ราย ขาดคุณสมบัติ-มีลักษณะต้องห้าม ทั้งเคยต้องคำพิพากษาจำคุกคดีพนัน อ้าง พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ แต่ไม่พ้นผิด – โดนคดีฉ้อโกง-ลักทรัพย์โดยทุจริตก็มา – ผู้ช่วยดำเนินงาน ส.ส. ก็มี

............................

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2563 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 17 ราย ว่ามีคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ. หรือไม่ โดย กกต. มีคำวินิจฉัย 6 รายว่า ขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้าม มีคำสั่งให้ถอนชื่อออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ได้แก่

1.กรณีนายวรรธนะ สงวนธรรม ผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ อ.ปะคำ โดย กกต. พบว่า นายวรรธนะ เป็นจำเลยในคดีเกี่ยวกับการพนัน ตาม พ.ร.บ.การพนันฯ (ไพ่แปดเก้า) โดยศาลจังหวัดนางรองมีคำพิพากษาเมื่อปี 2550 อันถึงที่สุดว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนันฯ แม้นายวรรธนะ อ้างว่าไม่ได้เป็นเจ้ามือตามคำพิพากษา และได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ. 2550 จึงมิทธิสมัครรับเลือกตั้ง อย่างไรก็ดีตามสำนวนคำพิพากษาพบว่า นายวรรธนะสารภาพว่าเป็นเจ้ามือ นอกจากนี้ตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ มีผลเพียงให้ถือว่าผู้ต้องโทษมิเคยถูกลงโทษตามคำพิพากษาแต่ไม่มีผลเป็นการลบล้างคำพิพากษา นายวรรธนะจึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

2.กรณีนายเสกสรร นิรันดร์ปกรณ์ ผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ อ.บ้านกรวด เขต 1 โดย กกต. พบว่า นายเสกสรร เป็นจำเลยในคดีที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.การพนันฯ (สลากกินรวบ) โดยศาลจังหวัดนางรองมีคำพิพากษาเมื่อปี 2546 อันถึงที่สุดว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนันฯ แม้นายเสกสรรอ้างว่า เคยต้องคำพิพากษาดังกล่าวในฐานะเจ้ามือการพนัน แต่ได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ อย่างไรก็ดีตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ มีผลเพียงให้ถือว่าผู้ต้องโทษมิเคยถูกลงโทษตามคำพิพากษาแต่ไม่มีผลเป็นการลบล้างคำพิพากษา นายเสกสรรจึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

3.กรณีนายนพดล รุ่งสาง ผู้สมัคร ส.อบจ.สระบุรี อ.เมืองสระบุรี เขต 3 โดย กกต. พบว่า นายนพดล เป็นจำเลยในคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน โดยศาลสระบุรีพิพากษาเมื่อปี 2559 ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จำคุก 1 ปี 12 เดือน ไม่รอการลงโทษ และศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดเมื่อ 23 ส.ค. 2559 ให้จำคุกตั้งแต่ 12 ก.ค. 2559 เป็นต้น และพ้นโทษจำคุกเมื่อปี 2561 ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่านายนพดล ได้รับโทษจำคุกและพ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง และมิใช่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือลหุโทษ จึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

4.กรณีนายภวัต เวสภักตร์ ผู้สมัคร ส.อบจ.อุทัยธานี อ.ลานสัก เขต 2 โดย กกต. พบว่า นายภวัต เป็นจำเลยในคดีร่วมกันลักทรัพย์ของผ็อื่น โดยศาลอุทัยธานีมีคำพิพากษาเมื่อปี 2553 ว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 (7) วรรคแรก ประกอบมาตรา 83 และมีหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดเมื่อ 28 ก.ค. 2559 ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่านายภวัต เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำผิดเกี่ยวกับการทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา เป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

5.กรณีนายพัฒนพงศ์ ราชป้องขันธ์ ผู้สมัคร ส.อบจ.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ เขต 1 โดย กกต. พบว่า นายพัฒนพงศ์ เป็นผู้ช่วยดำเนินงานคนที่ 4 ของนายเชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ ส.ส.บึงกาฬ (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ย. 2563) อย่างไรก็ดีนายพัฒนพงศ์ ให้ถ้อยคำว่า เข้าใจว่าตนเป็นเพียงผู้ติดตามและพนักงานขับรถเท่านั้น หลังจากทราบว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากดำรงตำแหน่งดังกล่าว จึงเดินทางมายังสำนักงาน กกต.บึงกาฬเพื่อขอถอนการสมัคร และแจ้งว่าไมได้ทำกิจกรรมหาเสียงใด ๆ ในการสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ กกต.บึงกาฬ แจ้งว่าไม่สามารถถอนการรับสมัครเลือกตั้งได้ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายพัฒนพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยดำเนินงานของ ส.ส. จึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

6.กรณีนายอิทธิพล ศรีสองสม ผู้สมัคร ส.อบจ.เชียงราย อ.เมืองเชียงราย เขต 2 โดย กกต. พบว่า นายอิทธิพล เคยต้องคำพิพากษาศาลจังหวัดเชียง คดีปลอมเอกสารราชการ ฐานใช้เอกสารราชการปลอม และความผิดฐานฉ้อโกง เมื่อปี 2561 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 (เดิม) มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 (เดิม) มาตรา 341 (เดิม) โดยศาลจังหวัดเชียงใหม่มีหนังสือลงวันที่ 23 พ.ย. 2563 แจ้งว่า ศาลอ่านคำพิพากษาเมื่อ 2 ธ.ค. 2562 ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยื่นอุทธรณ์ คดีถึงที่สุดแล้ว ส่วนนายอิทธิพล ชี้แจงว่า ต้องคำพิพากษาคดีดังกล่าว แต่ศาลพิพากษารอการลงโทษ ดังนั้นข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า นายอิทธิพล เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกง เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา จึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

อ่านประกอบ : 

ประเดิม! กกต.ตัดสิทธิผู้สมัคร ส.อบจ.อุตรดิตถ์ พ้นโทษจำคุกไม่ถึง 5 ปีก่อนวันเลือกตั้ง

มี 4 ผู้สมัครนายก อบจ.-116 สมาชิกฯขาดคุณสมบัติ-ร้องทุจริต 21 เรื่อง-ซื้อเสียง 4 แห่ง

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/