สภาเริ่มถกร่าง พ.ร.บ.งบปี 64 วาระสอง - ถูกปรับลดวงเงินจาก 3.30 ล้านล้านบาท เหลือ 3.28 ล้านล้านบาท 'จิรายุ' เตือนรัฐบาลใช้จ่ายอย่างระวัง เพราะเงินมาจากภาษีของประชาชน 'ศิริกัญญา' ห่วงจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า สะเทือนวินัยการเงินการคลัง ขอปรับลดอีกรอบเหลือ 3.20 ล้านล้านบาท
--------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบรายจ่ายประจำปี 2564 ในวาระที่ 2 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ดำเนินการเสร็จแล้ว โดยมีการปรับลดวงเงินจาก 3.3 ล้านล้านบาท เหลือ 3,285,962,479,700 บาท โดยมี กมธ.สงวนความเห็น 36 ราย และมี ส.ส.ขอสงวนคำแปรญัตติ 182 ราย โดยกำหนดการอภิปรายไว้ระหว่างวันที่ 16-17 ก.ย.
โดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธาน กมธ.งบประมาณฯ กล่าวว่า กมธ.ได้พิจารณารายละเอียดงบประมาณของ 721 หน่วยงาน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ ความมั่นคงของชาติ แนวนโยบายของรัฐบาล เงื่อนไขเศรษฐกิจ รวมถึงผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์โควิด โดยเสนอให้รัฐบาลได้กำหนดตัวชี้วัดด้านต้นทุน การประเมินความคุ้มค่า และให้ความสำคัญกับการทำงบประมาณบูรณาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และเพิ่มงบประมาณในการลงทุน เช่น การบริหารจัดการน้ำ การศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม และสาธารณสุข
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.เพื่อไทย ขอสงวนคำแปรญัตติ เพิ่มข้อความคำว่า ที่มาจากภาษีของประชาชนทั้งประเทศ เพื่อใส่ไว้ในคำปรารถและอีกหลายมาตราในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 โดยเห็นว่า เป็นข้อความเตือนให้รัฐบาลรับรู้ว่า เงินทุกบาททุกสตางค์มาจากภาษีของประชาชน เพราะงบประมาณเป็นเรื่องที่คนจ่ายไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้จ่าย ประชาชนจึงไม่รู้ว่าการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จำเป็นมากขนาดไหน ขณะที่หลายหน่วยงานได้ตั้งงบประมาณในลักษณะเผื่อต่อ มาตรา 1 โดยระบุว่า เป็นข้อความใส่ไว้ให้สำนึกว่า เงินทุกบาทมาจากภาษีของประชาชน หลายอย่างคนจ่ายไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้จ่าย ประชาชนไม่รู้ว่าการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จำเป็นขนาดไหน จึงขอเสนอให้มีการใส่คำว่า ภาษีของประชาชนทั้งประเทศ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณพึงระลึกถึงเรื่องนี้
นายจิรายุ ยังได้ขอสงวนคำแปรญัตติในมาตรา 3 ซึ่งเกี่ยวกับอำนาจรักษาการตามกฎหมายงบประมาณ โดยขอให้ตัดคำว่า รมว.คลัง และใช้คำว่า ครม. เข้ามารักษาการตามกฎหมายงบประมาณแทน เนื่องจากรายละเอียดงบประมาณเกี่ยวกับทุกกระทรวง และเห็นว่า รมว.คลังของรัฐบาลเปลี่ยนบ่อยจนจำไม่ได้ จะทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่า การใช้จ่ายงบประมาณต่าง ๆ ของรัฐบาล ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.ก้าวไกล อภิปรายเสนอให้มีการปรับลดงบประมาณลงอีก 1% จาก 3.28 ล้านล้านบาท ให้เหลือ 3.20 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณ โดยเห็นว่า มีการตั้งประมาณการรายได้ที่สูงเกินจริง เพราะตัวเลขที่จัดทำมาก่อนจะล็อกดาวน์ประเทศในช่วงสถานการณ์โควิด มีโอกาสที่จะทำให้เกิดปัญหาการขาดดุลสูงทะลุเพดาน โดยแสดงความกังวลว่า หากมีการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าเพียง 4% ขงอจีดีพี ก็จะทำให้มีปัญหาเรื่องวินัยการเงินการคลังทันที
ข่าวประกอบ :
หนี้พุ่ง-ฐานะ รบ.เปราะบาง? กางข้อสังเกต กมธ.วิสามัญฯหั่นงบปี 64 เหลือ 3.28 ล้านล.
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage