ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว 'เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์' แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก มี ผช.อธิการบดี มธ.เป็นนายประกัน หลังถูก สน.สำราญราษฎร์ ร้องฝากขัง ถูกแจ้งความเอาผิด 10 ข้อหา - โดนอีกกล่าวหาละเมิดอำนาจศาลด้วย
จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563 เว็บไซต์ไทยโพสต์ออนไลน์ รายงานอ้างว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก ซึ่งถูกแจ้งความเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และข้อหาที่เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง โดยถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมตัวแล้ว (อ้างอิงข้อมูลจาก : https://www.thaipost.net/main/detail/74448)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2563 เวลาประมาณ 16.00 น. มีรายงานจากศาลอาญาแจ้งว่า ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว นายพริษฐ์ โดยมี ผศ.ดร.อดิศร จันทรสุข ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ เป็นนายประกันให้ โดยไม่ต้องวางหลักประกัน แต่มีเงื่อนไขว่าต้องไม่กระทำการในลักษณะเดิมที่ถูกกล่าวหาอีก
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา จำนวน 10 ข้อหา ได้แก่ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการชุมนุม, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มาตรา 215, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ มาตรา 19, กีดขวางทางสาธารณะ มาตรา 385, ยุยงปลุกปั่น มาตรา 116, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณา มาตรา 4 ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน (ไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ) มาตรา 368, วางสิ่งกีดขวางทางจราจร พ.ร.บ.จราจร มาตรา 114 และใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ มาตรา 391
อนึ่ง เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันเดียวกัน ศาลอาญาเผยแพร่เอกสารข่าว (Press Release) ถึงกรณีนี้ว่า พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องขอฝากขังนายพริษฐ์ ผู้ต้องหา เพื่อทำการสอบสวนกรณีนายพริษฐ์ พูดปราศรัย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยทนายความของนายพริษฐ์ ยื่นคำร้องคัดค้านคำร้องขอฝากขังดังกล่าว
ศาลไต่สวนคำร้องขอฝากขัง มีมารดา ทนายความของนายพริษฐ์ และคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยเข้าร่วมฟังการไต่สวนในห้องพิจารณา ก่อนการไต่สวนศาลได้อธิบายคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวน และสิทธิตามกฎหมายให้นายพริษฐ์ทราบ แล้วไต่สวนพนักงานสอบสวนผู้ร้อง โดยมีทนายผู้ต้องหาถามค้าน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคำร้อง และข้อคัดค้านแล้วเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 ได้วางหลักเกณฑ์ในการควบคุมตัวผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับไว้ซึ่งเป็นขั้นตอนเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน คดีนี้พนักงานสอบสวนรับตัวผู้ต้องหาจากเจ้าพนักงานตำรวจประจำกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาได้ตามหมายจับของศาลอาญา จ.1172/2563 ลงวันที่ 6 ส.ค. 2563 เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563 เวลา 16.30 น. และนำตัวผู้ต้องหามาให้พนักงานสอบสวนถึงที่ทำการของพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563 เวลา 19.40 น. โดยผู้ต้องหาไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
ในวันนี้พนักงานสอบวนได้นำตัวผู้ต้องหามาศาลภายในกำหนด 48 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ผู้ต้องหาถูกจับและถูกนำตัวไปถึงที่ทำการของพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 วรรคสาม และอ้างว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากพนักงานสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 15 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา
แม้จะได้ความจากพยานผู้ร้องทั้ง 2 ปากตอบแทนทนายผู้ต้องหาถามค้านว่า มีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้พร้อมกันกับนายอานนท์ นำภา (ทนายความและผู้ปราศรัยบนเวทีกิจกรรมชุมนุมนักศึกษา) และนายภาณุพงศ์ จาดนอก (แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมนักศึกษา) และพยานหลักฐานบางส่วนในคดีนี้เป็นพยานหลักฐานชุดเดียวกับในคดีของนายอานนท์ และนายภานุพงศ์ก็ตาม แต่พยานผู้ร้องได้เบิกความยืนยันว่า พยานหลักฐานที่จะสอบสวนเพิ่มเติมในคดีนี้เป็นคนละสำนวนกันกับคดีของนายอานนท์ และนายภานุพงศ์ และยังต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมจากคดีดังกล่าวอีก และเพิ่งจับผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ภายหลังนายอานนท์และนายภาณุพงศ์ จึงถือว่าพนักงานสอบสวนมีเหตุจำเป็นตามพฤติการณ์แห่งคดี ที่จะยื่นคำร้องขอต่อศาลออกหมายขังผู้ต้องหาได้
ส่วนที่ผู้ต้องหาคัดค้านว่า ผู้ต้องหาเป็นนักศึกษามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานนั้น เห็นว่า คดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจจับผู้ต้องหาได้ตามหมายจับของศาลอาญาซึ่งมีข้อหาที่หนักที่สุดเป็นความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินกว่าหกเดือนแต่ไม่เกินสิบปี และคดีอัตราโทษดังกล่าวกฎหมายกำหนดให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลได้หลายครั้ง ครั้งหนึ่งต้องไม่เกินสิบสองวัน และรวมกันทั้งหมดต้องไม่เกินสี่สิบแปดวัน
เมื่อพนักงานสอบสวนได้ขอฝากขังผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นครั้งแรกและมีเหตุจำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมตามที่กล่าวอ้างข้างต้น กรณีจึงมีเหตุจำเป็นในการสอบสวนต่อไป
ในส่วนข้อคัดค้านที่ว่าไม่มีความจำเป็นต้องขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนนั้นเห็นว่าข้ออ้างดังกล่าวเป็นเรื่องของขั้นตอนการพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาซึ่งไม่เกี่ยวกับเหตุคัดค้านการฝากขังว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และข้อคัดค้านอื่น ๆ ของผู้ต้องหานั้น เป็นข้อต่อสู้ของผู้ต้องหาที่สามารถนำไปใช้ในชั้นพิจารณาหากถูกฟ้องเป็นจำเลยแล้ว
ข้อคัดค้านของผู้ต้องหาจึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง ดังนั้นจึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ตามขอ นอกจากนี้ศาลได้แจ้งสิทธิการขอประกันตัวหรือขอปล่อยตัวชั่วคราวให้ผู้ต้องหาทราบแล้วว่า ผู้ต้องหาสามารถยื่นคำร้องขอประกันตัวหรือขอปล่อยตัวชั่วคราวได้ทันทีหรือสามารถยื่นคำร้องขอประกันตัวได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
@โดนอีกคดีข้อหาหมิ่นศาลด้วย หลังปราศรัยเรียกมวลชนมาชุมนุมกรณีบุกจับทนายอานนท์-ภานุพงศ์
นอกจากนี้ศาลอาญายังได้อ่านคำสั่ง กรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 เวลากลางวัน ขณะที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์นำตัวผู้ต้องหา คือ นายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก มายื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญา นายพริษฐ์หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ กับพวกได้ลงข้อความ (Post) ลงเว็บไซต์เฟซบุ๊กในแฟนเพจชื่อนายพริษฐ์หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ เชิญชวนกลุ่มบุคคลให้มาร่วมชุมนุมกันที่ศาลอาญา จากนั้นนายพริษฐ์ได้กล่าวปราศรัยเสียงดังต่อหน้าผู้ชุมนุมและประชาชนในโดยใช้อุปกรณ์ขยายเสียงและยังใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพแล้วลงโฆษณาเพื่อชักจูงให้บุคคลอื่น ๆ เดินทางมาชุมนุมในบริเวณศาลเพื่อขัดขวางรบกวนการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาล รวมถึงถ่ายทอดสดภาพและเสียงเหตุการณ์การชุมนุมในบริเวณศาล (Live) ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อต่าง ๆ เจ้าพนักงานตำรวจและเจ้าหน้าที่ศาลได้เข้าระงับเหตุโดยการแจ้งข้อกำหนดศาลให้ทราบและห้ามปราม แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ฟังและยังคงดำเนินการดังกล่าวต่อไป การกระทำดังกล่าวเป็นการไม่ปฏิบัติตนตามข้อกำหนดของศาลว่าด้วยการรักษาความเรียบร้อย และประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เจ้าหน้าที่ศาลจึงทำบันทึกและรายงานคำกล่าวหาต่อศาล ขอให้ลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาล
โดยวันนี้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฏร์นำตัวนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ ผู้ถูกกล่าวมายื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญาในคดีพูดปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่ศาลจึงทำรายงานต่อศาลว่านายพริษฐ์เป็นบุคคลเดียวกับผู้ถูกกล่าวหาในคดีละเมิดอำนาจศาลนี้ ขอให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหา ศาลจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสำเนาคำกล่าวหาคดีละเมิดอำนาจศาลให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบโดยนัดไต่สวนคำกล่าวหาดังกล่าวในวันที่ 11 กันยายน 2563 เวลา 09.00 นาฬิกา ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ศาลจึงได้ให้ ผู้ถูกกล่าวหาปฏิญาณตนว่าจะมาตามนัดและปล่อยตัวชั่วคราวไปโดยไม่มีประกัน
สำหรับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน เป็นแกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่ผ่านมาเป็นแกนนำกลุ่มนักเรียน และนิสิตนักศึกษา ในการจัดกิจกรรมเพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และประชาธิปไตย ภายหลังเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 โดยในช่วงเดือน ส.ค. 2563 เป็นต้นมา มีบทบาทในการขึ้นปราศรัยในการชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัย กระทั่งถูกแจ้งความเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage