‘บิ๊กตู่’ เผย รบ.เตรียมคลายล็อก แบ่ง 4 ระยะ-ขอระวังเชื้อกลับมาแพร่ใหม่ ไม่งั้นทุกอย่างสูญเปล่า ย้ำมติ ครม.สวน ศบค.หยุดราชการ 4 วันเดือน พ.ค.แต่ต้องคุมเข้มงวด เผย ‘มหาเศรษฐี’หลายรายเห็นตรง รบ.แก้ปัญหา ลั่นไม่เคยได้เงิน-แลกผลประโยชน์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์การเมือง ชี้ไม่เป็นประโยชน์-สร้างความบิดเบือน สั่งทุกกระทรวงตรวจสอบข่าวปลอม-ยัน พ.ร.ก.แรงกว่ากฎหมายปกติขอให้ระวัง
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีสาระสำคัญอยู่ 5 ประเด็น ได้แก่
@เตรียมคลายล็อก แบ่ง 4 ระยะ-ขอระวังเชื้อกลับมาแพร่ใหม่ ไม่งั้นทุกอย่างสูญเปล่า
กรณีผ่อนปรนมาตรการป้องกันโควิด-19 ภายหลังขยายระยะเวลา พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่ใช่ดูแลเรื่องสถานการณ์โควิด-19 อย่างเดียว แต่ดูแลเรื่องเศรษฐกิจด้วย สำหรับมาตรการผ่อนปรนภายหลังรัฐบาลขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้นข้อกำหนดส่วนใหญ่ยังคงเดิมอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. หรือการห้ามเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด เป็นต้น อย่างไรก็ดีจะมีการแก้ไขข้อกำหนดบางประการ หรือคลายล็อกกิจกรรมบางอย่าง แบ่งเป็น 4 ระยะ ห้วงละ 14 วัน โดยจะเริ่มระยะแรกช่วงต้นเดือน พ.ค. 2563 และมีการประเมินแต่ละระยะว่าเป็นอย่างไร จะเกิดการระบาดร้ายแรงอีกหรือไม่ โดยผ่านการประเมินจากคณะกรรมการศึกษารายละเอียด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอให้เห็นใจรัฐบาลบ้าง ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตประชาชนเป็นหลัก และมาตรการทางสาธารณสุขยังมีความสำคัญอยู่ ดังนั้นอะไรผ่อนคลายได้จะผ่อนคลาย แต่ถ้าผ่อนคลายแล้วเกิดระบาดต้องปิดอีก ไม่อยากให้ย้อนกลับไปแบบนั้น โดยเฉพาะกิจกรรมที่แออัดมาก ๆ เช่น กิจกรรมทางศาสนา ต้องระวังตัวเอง และครอบครัว พิจารณาก่อนว่ากิจกรรมไหนจำเป็น มีความเสี่ยงน้อยก่อน โดยประเมินผลตามมาตรการสาธารณสุขในพื้นที่ ทั้งนี้ขอให้สถานประกอบการเตรียมความพร้อม เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าสถานที่ของท่านปลอดโควิด-19 (Free Covid-19) โดยมาตรการปลดล็อกต่าง ๆ จะประกาศให้ทราบในเร็ว ๆ นี้
“อย่าเพิ่งเรียกร้องมากนักเลย ขอให้อยู่ตรงกลาง แนวปฏิบัติต้องฟังท้องถิ่นเขาด้วย กระทรวงมหาดไทยใกล้ชิดประชาชนที่สุด ต้องระวังการแพร่ระบาดกลับมา ทำให้ทุกอย่างเสียเปล่าสิ้นเชิง ไม่อยากให้ย้อนกลับ ขอความร่วมมือสถานการณ์ประกอบการต่าง ๆ ขอให้ใจเย็น ไหน ๆ ก็อดทนกับผมแล้ว ผมก็เจ็บปวดเหมือนท่าน ผมเข้ามาเพื่อทำงาน ดูแลประชาชน สถานการณ์มันกดดันเราเข้ามาหลายประการด้วยกัน ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียว ทั้งภูมิภาคเรา ภูมิภาคโลก เดือดร้อนหมดเรื่องโควิด-19” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@มติ ครม.สวน ศบค.หยุดราชการ 4 วันเดือน พ.ค.แต่ต้องคุมเข้มงวด
กรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติไม่ให้หยุดราชการ 4 วัน ในเดือน พ.ค. ได้แก่ วันแรงงาน 1 พ.ค. วันฉัตรมงคล 4 พ.ค. วันวิสาขบูชา 6 พ.ค. และวันพืชมงคล 11 พ.ค. นั้น อย่างไรก็ดี ครม.มีมติว่าให้มีวันหยุดทั้ง 4 วันเหมือนเดิม เพียงแต่มีเงื่อนไขว่าเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความเข้มงวดในมาตรการต่าง ๆ ทั้งเรื่องสาธารณสุข การคมนาคม และการรักษาความปลอดภัย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เรื่องวันหยุดราชการนั้น เดิม ศบค.ไม่หยุด แต่มติ ครม.ให้หยุด ส่วนวันหยุดของรัฐวิสาหกิจหรือแรงงานว่ากันไปตามเดิม แต่ต้องมีมาตรการป้องกัน มาตรการตาม Social Distancing ต้องเข้มงวด ไหน ๆ หลายมาตรการที่จะปลดล็อกแล้ว ต้องดูแลให้ดีที่สุด
@เผย ‘มหาเศรษฐี’หลายรายเห็นตรง รบ.แก้ปัญหา ลั่นไม่เคยได้เงิน-แลกผลประโยชน์
กรณี 20 มหาเศรษฐีส่งหนังสือตอบและแสดงความคิดเห็นต่อรัฐบาลนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภายหลังรัฐบาลทำหนังสือขอความร่วมมือ 20 ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่นั้น มีบางหลายรายทยอยตอบกลับมาแล้ว ยืนยันไม่มีใครให้เงินรัฐบาล มีแต่บอกว่าดูแลคนในห่วงโซ่ธุรกิจเขาอย่างไร ทำอย่างไรให้ลดการจ้างงานให้น้อยที่สุด หาอาชีพเสริมให้พนักงาน ตอนนี้หลายคนกลัวว่าหากสถานการณ์ดีขึ้นจะไม่กลับมาทำงาน เพราะขายออนไลน์กันหมดแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ยังเสนอแนะด้านเศรษฐกิจ โดยมีความเห็นค่อนข้างตรงกันว่า รัฐบาลต้องบริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึง พร้อมจะช่วยเหลือและสนับสนุนให้ประชาชนมีแหล่งน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการขุดแหล่งน้ำต่าง ๆ ในการดูแลประชาชน เขาสัญญาว่าจะดูแลประชาชนให้มากขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ ลดปัญหาเชิงซ้อน และร่วมมือกับรัฐบาลต่อไปในอนาคต ที่ผ่านมาทำมาเยอะ หลายเรื่องรัฐบาลดูแลอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถดูแลได้ทุกคน 100% ต้องอาศัยภาคส่วนต่าง ๆ มาร่วมมือด้วย ตอนนี้ไม่ควรมีข้าง แต่ควรจะเป็นข้างเดียวกันทั้งหมด ข้างที่จะดูแลประชาชนให้สมกับเป็นคนไทย
“เขาเสนอมา มีความเห็นตรงกัน มองในมุมเดียวกัน โลกหลังจากนี้จะเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ในเรื่องการดำรงชีวิต ทุกคนให้ความสำคัญสุขภาพ สิ่งแวดล้อม เราต้องสานต่อตามยุทธศาสตร์ที่มีอยู่แล้วเดิม พัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ สูงสุดในอนาคต หลุดพ้นประเทศกับดักรายได้ปานกลาง ต้อร่วมมือกับเอกชน ไม่สามารถทำได้คนเดียว ถ้าไม่เห็นชอบ ไม่ร่วมมือกัน ไม่สำเร็จซักอัน ไม่ว่าใครจะทำก็แล้วแต่ ขอบคุณผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ 20 ท่าน เสนอข้อคิดเห็นเป็นประโยชน์ ไม่มีใครร้องขอผลประโยชน์ ไม่มีใครให้เงินรัฐบาล ผมคงรับเงินท่านไม่ได้ ไม่มีการตอบแทนผลประโยชน์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@ปฏิเสธให้สัมภาษณ์การเมือง ชี้ไม่เป็นประโยชน์-สร้างความบิดเบือน
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง โดยระบุว่า เรื่องการเมืองขออนุญาตไม่ตอบช่วงนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญในช่วงนี้ เป็นเรื่องการทำงานของเรามากกว่า ขอให้รัฐบาลดูแลฟื้นฟูความสุขให้ประชาชนได้บ้าง เรื่องที่ถามมาหลายเรื่องการเมือง ไม่ตอบดีกว่า
“เรื่องอื่นไม่เป็นประโยชน์ สร้างความบิดเบือน ไม่พูดดีกว่าช่วงนี้ ขอร้องประชาชน ต้องมีคนเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง มองเห็นเจตนารมณ์รัฐบาล มุ่งมั่งแก้ปัญหาเพื่อประชาชน ไม่สามารถดูแลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้มากนัก ต้องดูสถานการณ์สาธารณสุขเป็นหลัก ขอบคุณ ครม.ทุกคน ขอบคุณทุกภาคส่วน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@สั่งทุกกระทรวงตรวจสอบข่าวปลอม-ยัน พ.ร.ก.แรงกว่ากฎหมายปกติขอให้ระวัง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงปัญหาข่าวปลอม (Fake News) ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ด้วยว่า ขอให้ทุกกระทรวงติดตาม กรณีมีการแพร่คำพูดบิดเบือนจากข้อเท็จจริง ทำให้เกิดผลกระทบในการทำงาน ต้องใช้กฎหมายดูแล หากมีคนละเมิดต้องถูกกฎหมายดำเนินการ ส่วนใหญ่เป็นกฎหมายปกติ เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท แต่อย่าลืมว่าขณะนี้มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีข้อกำหนดในเรื่องนี้อยู่แล้ว แรงกว่ากฎหมายปกติ ขอให้ทุกคนระวังด้วย ที่ผ่านมาจับมาแล้วหลายราย ทุกคนพูดอย่างเดียวว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ให้ไปพิสูจน์ทราบในศาล
“ขอให้อย่าละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพราะทำให้เราปลอดภัย หลายประเทศชื่นชมเรา การดูแลของเรา ไม่ได้ปิดบังทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลข้อเท็จจริง วันหน้าตรวจกลุ่มเสี่ยงให้มากยิ่งขึ้น ใกล้เคียงกับประเทศพัฒนาแล้ว ที่แก้ไขโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ต้องศึกษา ถ้าติติงมาก บางทีไม่เป็นประโยชน์ ขัดแย้งกันหมด แก้ปัญหาไปไม่ได้ ขอความร่วมมือ ขอความเข้าใจด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage