ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ ‘ดิเรก ก้อนกลีบ’ อดีตผู้ว่าฯลำปาง ‘เสริมศักดิ์ สีสันต์’ อดีต นอภ.แม่เมาะ ชนะคดีปมถูก ไล่ออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช. ชี้มูลคดีสร้างอ่างเก็บน้ำ 4 แห่งในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่เมาะ ชี้มิได้ทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจไต่สวน สั่ง มท.เพิกถอนคำสั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาคดีที่นายวรเดช หรือดิเรก ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นผู้ฟ้อง กับปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 คดีที่กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งไล่นายวรเดช หรือดิเรก ออกจากราชการ ฐานมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง กรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดว่า ละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ กิ่วข้าวหลาม อ่างเก็บน้ำปงชัย อ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หลวง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้
ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย กรณีไล่นายวรเดช หรือดิเรก ออกจากราชการ กรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดดังกล่าว เนื่องจากไม่ปรากฏข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยว่า นายวรเดช หรือดิเรก มีเจตนาเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับเงินหรือประโยชน์อื่นใดที่มีควรได้จากการเป็นผู้จัดการอ่างเก็บน้ำดังกล่าว เมื่อนายวรเดช หรือดิเรก มิได้กระทำการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงไม่มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดทางวินัยดังกล่าว
โดยศาลปกครองสูงสุด พิจารณาแล้วเห็นว่า นายวรเดช หรือดิเรก มิได้กระทำการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ เพื่อให้ตนเองและผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และยังปรากฏข้อเท็จจริงจากรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงพลังงาน เพื่อประกอบพระราชดำริ จากการถวายฎีกาของกำนันผู้ใหญ่บ้าน และพวกในคดีนี้ว่า ผู้ดำเนินการเกี่ยวกับการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง กระทำไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่ มิได้มีเจตนาบุกรุก ครอบครอง เข้าทำประโยชน์ส่วนตนอันสอดคล้องกับความเห็นของจังหวัดลำปาง ที่เสนอผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครองท้องถิ่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ภายหลังการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง มีสภาพมั่นคงแข็งแรง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ตลอดปี และดำเนินการคืนสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายในระหว่างที่ถูกไล่ออกจากราชการแก่นายวรเดช หรือดิเรก และพวก
นอกจากนี้ศาลปกครองสูงสุดยังพิพากษา กระทรวงมหาดไทย เพิกถอนคำสั่งไล่ออกจากราชการของนายเสริมศักดิ์ สีสันต์ อดีตนายอำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ข้อเท็จจริงกรณีนี้ เดิมนายวรเดช หรือดิเรก เป็นข้าราชการพลเรือน ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 372/2557 ลงวันที่ 9 ก.ค. 2557 และคำสั่ง ที่ 643/2560 ลงวันที่ 26 เม.ย. 2560 ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ตามที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 558-26/2557 เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2557 แก้ไขเพิ่มเติมในการประชุมครั้งที่ 562-30/2557 เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2557 ว่ากรณีของผู้ฟ้องคดีมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีผู้ฟ้องคดีละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกิ่วข้าวหลาม อ่างเก็บน้ำปงชัย อ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หลวง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้
ต่อมา นายวรเดช หรือดิเรก อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม โดยคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมมีคำวินิจฉัยเรื่องดำที่ 5710165 แดงที่ 0016160 ลงวันที่ 21 ก.พ. 2560 ให้แก้ไขฐานความผิดนอกจากนั้นให้เป็นไปตามคำสั่งเดิม
นายวรเดช หรือดิเรก เห็นว่า คำสั่งของปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจไต่สวนข้อเท็จจริง จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล ขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้ (1) เพิกถอนคำสั่งมหาดไทย ที่ 372/2557 เรื่องลงโทษไล่ออกจากราชการ โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 9 ก.ค. 2557 และเพิกถอนคำสั่งไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ที่ 643/2560 (2) ให้วินิจฉัยอำนาจไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่ชี้มูลความผิด ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 (3) วินิจฉัยเพิกถอนคำวินิจฉัยของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (4) มีคำสั่งให้คืนสิทธิตามกฎหมายแก่ผู้ฟ้องคดี เช่น เงินบำนาญเลี้ยงชีพ นับแต่วันที่ 11 มี.ค. 54 (5) มีคำสั่งเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีและครอบครัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก นายดิเรก ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าลำปาง และพวกรวม 14 ราย ในคดีดังกล่าวแล้ว โดยไม่รอลงอาญา ทั้งนี้ในส่วนของ นายดิเรก และ นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ อดีตนายอำเภอแม่เมาะ ถูกตัดสินลงโทษคนละ 4 กรรม ๆ และ 4 ปี รวมจำนวน 16 ปี ส่วนจำเลยอื่นถูกตัดสินโทษลดหลั่นกันลงมา เบื้องต้นจำเลยทั้งหมด ได้มีการยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวในช่วงเย็นวันเดียวกัน เพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์และฏีกาต่อไป (อ่านประกอบ : ศาลฯสั่งจำคุกอดีตผู้ว่าฯลำปาง-พวก14ราย คดีละเว้นอ่างเก็บน้ำแม่เมาะ-หัวขบวนโดน16 ปี)
อ่านประกอบ :
ฉบับเต็ม! คำพิพากษาคดีละเว้นอ่างเก็บน้ำแม่เมาะ-จำคุกอดีตผู้ว่าฯลำปาง พวก14ราย ไม่รอลงอาญา
ป.ป.ช.ฟันเรียบ อดีตผู้ว่าฯลำปาง-พวก14 รายคดีสร้างอ่างฯ "แม่เมาะ"
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage