ปมขายหวยเดือนละ 3 ล.‘ธรรมนัส’ไม่แจ้งสิทธิและสัมปทาน ใช้ชื่อใครเช่า-ป.ป.ช.ขยับสอบ?

ขมวดข้อเท็จจริงชัด ๆ ปมขายหวยเดือนละ 3 ล้าน ‘ธรรมนัส’ ไม่แจ้งสิทธิและสัมปทานในบัญชีทรัพย์สินฯ สรุปเช่าในชื่อใคร ให้ใครเช่า ? ป.ป.ช. รับลูกข้อมูล ‘อิศรา’ ขยับสอบแล้ว

PIC sittithammas 10 3 63 1

หนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดในช่วงเวลานี้หนีไม่พ้นชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์

ภายหลัง ‘คนใกล้ชิด’ ตกเป็นข่าวระดับ ‘พาดหัวไม้’ ของสื่อเกือบทุกสำนักว่า นายพิตตินันท์ รักเอียด ‘ผู้ติดตาม’ รมช.เกษตรฯรายนี้ ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยกว่า 200 ล้านชิ้น นำไปสู่การบุกค้นสถานที่ต่าง ๆ โดยเจ้าหน้าที่รัฐ และพนักงานสอบสวนตามที่แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง (ปัจจุบันปิดตัวเองลงแล้ว) ออกมาแฉ และการขยายผลตรวจสอบต่อของสื่อมวลชน (อ่านประกอบ : 'ธรรมนัส' ยันผู้ติดตามถูกแอบอ้างกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล.ชิ้น-บ.ทรูไลน์ เมดฯ ยังไม่ชี้แจง, โพรไฟล์ธุรกิจ 'ศรสุวีร์' ผู้โดนคนใกล้ชิดธรรมนัส แจ้งความคดีกักตุนหน้ากาก 200 ล.ชิ้น)

อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2563 ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีตอนหนึ่งสยบข่าวลือเรื่องลาออกพ้นรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่า ตอนนี้ความจริงปรากฏแล้วว่าใบออเดอร์สินค้ามีจริงหรือไม่ และอยู่กับใคร ขอให้รอติดตามพิสูจน์ อีกไม่นาน ภายในสัปดาห์นี้จะกระจ่างชัด ไม่เกินวันที่ 13 มี.ค. 2563 เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องการเมือง ทั้งนี้ได้ไล่ออกผู้ติดตามคนดังกล่าวแล้ว และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง (อ้างอิงข่าวจาก : https://www.thaipost.net/main/detail/59326)

นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกเปิดขึ้นใหม่กับรัฐมนตรีที่ชื่อ ‘ธรรมนัส’ หลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเมื่อปลายเดือน ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา โดย ร.อ.ธรรมนัส เป็นรัฐมนตรีรายเดียวจาก 6 รายที่ได้เสียงโหวตน้อยที่สุดแค่ 269 เสียง (อ่านประกอบ : งูเห่าโผล่อีก! ปูด ส.ส.เพื่อไทย-เสรีรวมไทยช่วยโหวตหนุน'บิ๊กป้อม'-รบ.ลิ่วชนะศึกซักฟอก)

politic 2020 22

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส เนื้อหาใจความหลักมี 2 ส่วน ได้แก่

1.กรณีการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เดือนละ 3 ล้านบาท ทั้งที่ไม่ปรากฏชื่อเป็นกรรมการ หรือหุ้นส่วนใน หจก.ขวัญฤดี (1 ใน 5 เสือกองสลากฯ) แล้ว

2.กรณีการโอนหุ้นบริษัท ตลาดคลองเตย (2551) จำกัด ให้แก่ น.ส.อริสดา พรหมเผ่า ต่อมาโอนหุ้นต่อให้ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยบริษัทแห่งนี้ถูกอภิปรายว่าเป็นคู่สัญญากับการท่าเรือแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งอาจขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2563 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าที่พรรคก้าวไกล หนึ่งใน ส.ส.ผู้เปิดประเด็นอภิปราย ร.อ.ธรรมนัส ในสภา ระบุในงานแถลงข่าวเปิดตัวพรรคก้าวไกลตอนหนึ่งว่า เตรียมจะรวบรวมชื่อ ส.ส. ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส รวมถึงจะยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ไต่สวนกรณีการโอนหุ้นบริษัท ตลาดคลองเตย (2551) จำกัด ที่เป็นคู่สัญญากับรัฐวิสาหกิจด้วย (อ่านประกอบ : ‘ณัฐชา’จ่อยื่น ปธ.สภาฯชงศาล รธน. วินิจฉัยสถานะ‘ธรรมนัส’-ร้อง ป.ป.ช.สอบหุ้น‘ภริยา’ด้วย)

เบื้องต้น โฟกัสที่ประเด็น การแจ้งรายได้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเดือนละ 3 ล้านบาทของ ร.อ.ธรรมนัส ก่อน ?

ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงประเด็นนี้ว่า เรื่องการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ปฏิเสธว่า ก่อนที่จะเข้าสู่การดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะ ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมาว่า มีอาชีพเป็น 1 ใน 5 เสือกองสลากฯ แต่นโยบายรัฐบาลชุดที่แล้ว (รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 1) มีนโยบายไม่ให้มี 5 เสือกองสลากฯ หรือผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ จึงได้รับสัมปทานในฐานะเป็นคู่สัญญากับกองสลากฯครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2558 หลังจากนั้นจนถึงทุกวันนี้ไม่มีสัมปทาน หรือเป็นคู่สัญญากับกองสลากฯแม้แต่เล่มเดียว

“ด้วยข้อเท็จจริงอยากเรียนว่า รายได้จากการทำธุรกิจในส่วนของสลากกินแบ่งรัฐบาลเดือนละ 3 ล้านบาท คือรายได้จากการไปเช่าแผงค้าสลากฯที่ข้างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งเป็นการเช่าช่วงจากเจ้าของตลาด ผมมีแผงค้าสลากฯจำนวนทั้งหมดเกือบ 10 แผง เพราะมีความจำเป็นต้องหล่อเลี้ยงลูกค้าผมที่ทำธุรกิจเรื่องสลากฯกันมาเกือบ 10 ปี เพราะลูกค้าเหล่านั้น สมัยเป็นเจ้าของสัมปทาน รับสลากไปขายแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอทั่วประเทศไทย มีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องประคองชีวิตพ่อค้าผู้มีอาชีพเหล่านั้น ให้มีอาชีพต่อไป แม้รายได้จะลดน้อยลง แต่เขาก็สามารถทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอด นั่นคือสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นเมื่อเปิดแผงค้าเกือบประมาณ 10 แผง เอาไว้ทำอะไร ก็ไว้รับซื้อสลาก ไว้จำหน่ายสลากเหมือนเดิม การทำอาชีพอย่างนี้ถือว่าเป็นอาชีพสุจริต ถึงแม้ว่าเราจะดำรงตำแหน่งในฐานะรัฐมนตรี หรือฐานะ ส.ส. ก็ตาม” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ (อ่านประกอบ : ธรรมนัส พรหมเผ่า: แจง 2 ปมยศนำหน้า-ขายสลากฯ “ผิดเหรอ(เคย)เป็นผู้ค้ารายใหญ่”)

จริงหรือไม่ ?

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข้อมูลในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ร.อ.ธรรมนัส กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 แจ้งมีรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล (เฉลี่ยต่อเดือน) เป็นเงิน 3 ล้านบาท

ขณะที่ในส่วนสิทธิและสัมปทานของ ร.อ.ธรรมนัส และคู่สมรส รวม 26 รายการ มูลค่า 92,417,394 บาท พบว่าเป็นสัญญาประกันภัย และสัญญาประกันชีวิตทั้งหมด ไม่มีการระบุว่ามีการเช่าแผงขายสลากฯแต่อย่างใด

PIC ทรพยสนธรรมสส 33

PIC ทรพยสนธรรมสส 34

ประเด็นที่น่าสนใจคือ การแจ้งมีรายได้จากการขายสลากฯ โดยอ้างว่าเป็นการ ‘เช่าแผง’ ต้องแจ้งในสิทธิและสัมปทานหรือไม่ ?

เว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุนิยามของสิทธิและสัมปทานในการยื่นบัญชีทรัพย์สินว่า สิทธิและสัมปทาน หมายถึงสิทธิในทรัพย์สินทางวรรณกรรม ศิลปกรรม ประดิษฐกรรม และการที่รัฐอนุญาตให้เอกชนจัดทำประโยชน์เกี่ยวกับการบริการสาธารณะ หรือทรัพยากรธรรมชาติ จนถึงสิทธิที่รัฐหรือเอกชนรับรอง และสามารถคำนวณเป็นเงินได้ เช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิตามสัญญาสัมปทานต่าง ๆ ประทานบัตร สิทธิการเช่าที่ดิน สิทธิการเช่าอาคารสถานที่ สิทธิสมาชิกสนามกอล์ฟ เป็นต้น โดยการแสดงสิทธิและสัมปทาน ให้แสดงมูลค่าที่ได้รับจากสิทธิและสัมปทาน หรือมูลค่าคงเหลือในปัจจุบัน (อ้างอิงข้อมูลจาก : https://www.nacc.go.th/files/article/attachments/201912021624203.pdf)

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สอบถามข้อมูลไปยังนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ถึงกรณีดังกล่าว โดยนายวรวิทย์ ระบุเบื้องต้นว่า ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน ทั้งในส่วนข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายว่า การเช่าแผงขายสลากฯ ต้องแจ้งในบัญชีทรัพย์สินส่วนสิทธิและสัมปทานหรือไม่

“อย่างไรก็ตามทุกประเด็นที่สำนักข่าวอิศรานำเสนอและตรวจสอบ ได้สั่งการให้สำนักที่เกี่ยวข้อง สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง นำข้อมูลไปตรวจสอบ และขยายผลเพิ่มเติมแล้ว” นายวรวิทย์ กล่าว

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศราลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์การค้าสลากไทย ซึ่งเป็นจุดขายสลากรายใหญ่ข้างกองสลาก (ตามข้อมูลที่ ร.อ.ธรรมนัส อ้าง) เมื่อถามว่า แผงเช่าภายในมีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นผู้เช่าหรือไม่ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ไม่ทราบรายละเอียด เพราะในข้อเท็จจริงไม่สามารถตรวจสอบชื่อได้ทั้งหมด เนื่องจากมีแผงผู้เช่าหลายร้อยแผง และส่วนใหญ่เรียกกันด้วยชื่อเล่น จึงไม่ทราบว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้เช่าหรือไม่ ถ้าหากทราบชื่อเล่นจึงจะสามารถตรวจสอบได้ (อ่านประกอบ : ตะลุยศูนย์การค้าสลากไทย ตามหาแผงขายหวย ‘ธรรมนัส’ มีจริงไหม-ให้ใครเช่าอยู่?)

นี่คือข้อมูลโดยสรุปเฉพาะกรณีการขายสลากฯ เดือนละ 3 ล้านบาทของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ยังไม่มีคำตอบอย่างชัดเจนว่า เช่าแผงในชื่อใคร ผ่านใคร และใครคือผู้เช่าแผงสลาก ?

อ่านประกอบ :

เปิดธุรกิจใหม่ แม่ยาย‘ธรรมนัส’ ชื่อเดียวหลานชาย -คนติดตาม รมช. ร่วมถือหุ้น

ตะลุยศูนย์การค้าสลากไทย ตามหาแผงขายหวย ‘ธรรมนัส’ มีจริงไหม-ให้ใครเช่าอยู่?

เปิดงบการเงิน บ.ตลาดคลองเตย ‘ธรรมนัส’ เช่าพื้นที่การท่าเรือฯ 10 ปี ก่อนโอนหุ้น 51 ล.

เอกสาร 3 ชุด ปมเมีย‘ธรรมนัส’โอนหุ้นให้แม่ - เพิ่มทุน 4 ล้าน

‘จุ๊บจิ๊บ’อดีตนางสาวไทย เมีย‘ธรรมนัส’ โอนหุ้นรับเหมาให้แม่ หลังสามีเป็น ส.ส.

พลิกข้อมูล ‘วิภาดา’ ผู้ถือหุ้น ตลาดคลองเตย ‘ธรรมนัส’ 51 ล้าน

รายได้เดือนละ 3 ล้าน! ‘ธรรมนัส’ ใช้ชื่อใครค้าสลากกินแบ่ง

ส.ส.ณัฐชา แฉปมโอนหุ้นบ.ตลาดคลองเตยให้นอมินี-'ธรรมนัส' โต้ไม่จริง 'วิภาดา' ผู้ร่วมก่อตั้ง

ธรรมนัส พรหมเผ่า: แจง 2 ปมยศนำหน้า-ขายสลากฯ “ผิดเหรอ(เคย)เป็นผู้ค้ารายใหญ่”

'นิคม'เปิดปมรายได้ขายหวย'ธรรมนัส'3 ล./ด.-เจ้าตัวแจงเปิดแผงเอง ไม่เป็นคู่สัญญากองสลากฯแล้ว

ไม่ใช่แค่ 40 ล้านหุ้น! พบหญิงสาวติดตาม รมช.เกษตรฯชื่อถือหุ้นอีกแห่ง บ.ธรรมนัส