'พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา' นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งจัดตั้ง 'ศูนย์ข้อมูล COVID-19' ในทำเนียบเป็นทางการ บูรณาการความช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือนร้อนทุกมิติ พร้อมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สาธารณชน ไม่ให้ตื่นตระหนกข่าวสารเท็จ รายงานตรงสถานการณ์ทุกวัน เปิดรับบริจาคตามระเบียบราชการด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 72/2563 เรื่อง จัดตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบุว่า ตามที่ได้ปรากฎเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชนและชาวต่างชาติในประเทศไทย ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แจ้งคำเตือนแก่ทุกประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMD-19) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แล้ว
ดังนั้น เพื่อให้การเฝ้าระวังและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อันเป็นสาธารณภัยอย่างหนึ่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สมควรจัดตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) เพื่อบูรณาการความช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือนร้อน จากสถานการณ์ดังกล่าวในทุกมิติ ได้แก่ มิติด้านข้อมูลข่าวสาร มิติด้านสาธารณสุข มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสังคมและการสงเคราะห์อย่างทันท่วงที รวมทั้งสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สาธารณชนเพื่อให้เกิดความตระหนักรู้เท่าทันและเตรียมพร้อมโดยไม่ตื่นตระหนกในข่าวสารอันไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีในเรื่องมาตรการเร่งด่วนสำหรับการแก้ไขบัญหาจากโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2563 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
1. ให้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เรียกโดยย่อว่า "ศูนย์ข้อมูล COVID-19" ขึ้นในทำเนียบรัฐบาล ตั้งอยู่ ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล หรือสถานที่อื่นตามที่นายกรัฐมนตรีกำหนด
2. ให้มีผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูล COVID-19 คนหนึ่งซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นผู้รับผิดชอบการปฏิบัติภารกิจของศูนย์ข้อมูล COVID-19 ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี ให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐมาปฏิบัติหน้าที่ด้านต่าง ๆ ในศูนย์ข้อมูล COVID -19 จนกว่าภารกิจแล้วเสร็จ
3. ให้ศูนย์ข้อมูล COVID- 19 มีภารกิจในการอำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแลข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-2019) โดยมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
3.1 รวบรวมและประสานข้อมูลจากหน่วยงานในต่างประเทศ ส่วนราชการ หน่วยงานอื่นของรัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการจัตทำสื่อประชาสัมพันธ์และผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องในทุกช่องทางทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างทันท่วงที เพื่อความเป็นเอกภาพและสร้างความเชื่อมั่นแก่สาธารณชน
3.2 รับเรื่องร้องทุกข์หรือข้อร้องเรียนจากประชาชนหรือภาคเอกชนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำนินการให้ความช่วยเหลือ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาได้ทันที
3.3 ติดตามการปฏิบัติงานในการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้อย่างทันท่วงที
3.4 ชี้แจงต่อประชาชนและภาคเอกชน เพื่อประสานความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยเฉพาะขั้นตอนการเฝ้าระวังและการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
3.5 เชิญบุคคลเข้าร่วมประชุมหรือขอข้อมูลจากหน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยชี้แจง หรือเพื่อประโยชน์อื่นในการปฏิบัติงานของศูนย์ข้อมูล COVID-19
3.6 รับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับการป้องกันและระงับยับยั่งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข หน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ
3.7 รายงานสถานการณ์และความคืบหน้าการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูล COVID-19 ต่อนายกรัฐมนตรีทุกวัน
3.8 ดำเนินการอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
4. ให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของศูนย์ข้อมูล COVID-19 ตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2563
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
(ดูคำสั่งฉบับเต็มประกอบท้ายข่าว)
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage