สตช. ส่งหนังสือแจ้ง ผบ.ตร.-สถานีตำรวจทั่วประเทศ ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎรฯ ฉบับใหม่ ให้นำชื่อบุคคลที่ถูกออกหมายจับแต่ยังนำตัวมาไม่ได้ ส่งเข้าทะเบียนกลางใน 180 วัน หมายจับก่อน 15 เม.ย. 62 ครบกำหนด 11 ต.ค. นี้ หากทำบกพร่องก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการโดนโทษ – พบ ‘ยิ่งลักษณ์’ ประเดิมรายแรก ‘ทักษิณ’ ตามมาติด ๆ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ออกหนังสือเรียนถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร. รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และหน่วยงานใน สตช. ระบุสาระสำคัญเกี่ยวกับการนำชื่อบุคคลที่ถูกออกหมายจับ และยังมิได้ตัวผู้ต้องหา นำเข้าสู่ทะเบียนกลางภายใน 180 วัน
โดยหนังสือของ สตช. ฉบับนี้อ้างอิงถึง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา โดยกำหนดกรณีที่ศาลออกหมายจับผู้ใดตามคำร้องขอของพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ หรือในกรณีที่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจได้รับแจ้งจากศาลให้จับกุมผู้ใดตามหมายจับที่ศาลออกเอง ถ้ายังมิได้ตัวผู้นั้นมาภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ศาลออกหมายจับ ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจแจ้งให้ผู้อำนวยการทะเบียนกลางทราบ และให้ผู้อำนวยการทะเบียนกลางดำเนินการให้นายทะเบียนผู้รับแจ้งย้ายผู้นั้นออกจากทะเบียนบ้าน และเพิ่มชื่อและรายการของผู้นั้นไว้ในทะเบียนบ้านกลาง
สำหรับระยะเวลาการเริ่มนับ 180 วัน แบ่งเป็น 2 กรณี
1.กรณีออกหมายจับก่อนวันที่ 15 เม.ย. 2562 (วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้) กรณีดังกล่าวคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 735/2562 เรื่อง การเริ่มนับระยะเวลา 180 วันในการเพิ่มชื่อและรายการของบุคคลที่ยังไม่ได้ตัวตามหมายจับไว้ในทะเบียนบ้านกลาง วินิจฉัยว่า หากหมายจับดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้อยู่ตามมาตรา 68 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทุกกรณีให้เริ่มนับระยะเวลา 180 วันตั้งแต่ พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ ซึ่งหมายจับดังกล่าวจะครบ 180 วัน ในวันที่ 11 ต.ค. 2562
2.กรณีหมายจับที่ออกตั้งแต่ 15 เม.ย. 2562 ให้เริ่มนับระยะเวลา 180 วัน นับแต่วันที่ศาลออกหมายจับ
ทั้งนี้ให้ผู้มีหน้าที่แจ้งผู้อำนวยการทะเบียนกลางทำการสำรวจหมายจับที่อยู่ในความรับผิดชอบซึ่งออกก่อนวันที่ 15 เม.ย. 2562 ว่า หมายจับใดยังมีผลใช้ได้อยู่ตามมาตรา 68 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา คือยังจับตัวบุคคลตามหมายจับไม่ได้ คดียังไม่ขาดอายุความ หรือศาลยังไม่ถอนหมายคืน ให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 11 ต.ค. 2562
เมื่อระยะเวลา 180 วันแล้วยังไม่ได้ตัวบุคคลตามหมายจับมาดำเนินคดี ให้ผู้มีหน้าที่แจ้งทะเบียนกลาง รีบดำเนินการแจ้งให้ผู้อำนวยการทะเบียนกลางทราบโดยเร็ว หากพบข้อบกพร่องอันทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ให้พิจารณาโทษความเหมาะสมทั้งผู้บกพร่องและผู้บังคับบัญชาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการบังคับใช้ พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 โดยมีผลภายในวันที่ 11 ต.ค. 2562 ได้แก่ กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาตั้งแต่ปี 2560 จำคุก 5 ปี คดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว
ส่วนที่มีผลให้นับภายใน 180 วันตั้งแต่ออกหมายจับ เช่น คดีของนายทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 2 คดี และยังไม่ขาดอายุความ ได้แก่ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2562 จำคุก 2 ปี คดีทุจริตโครงการหวยบนดิน เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2562 จำคุก 3 ปี คดีให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ปล่อยกู้สิ้นเชื่อแก่เมียนมา 4 พันล้านบาท และยังเหลือคดีแปลงสัมปทานดาวเทียมเอื้อชินคอร์ปฯ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างไต่สวน และศาลยังไม่ได้นัดอ่านคำพิพากษา ส่วนคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก คดีหมดอายุความแล้ว
สำหรับทะเบียนบ้านกลาง คือ ทะเบียนที่สำนักทะเบียนจัดทำขึ้นสำหรับลงรายการบุคคลที่ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านปกติ ด้วยสาเหตุต่าง ๆ กัน อาทิ เจ้าบ้านแจ้งย้ายบุคคลที่มีชื่อในทะเบียนบ้านของตนเองออกเพราะบุคคลนั้นได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วแต่ไม่ทราบที่อยู่ใหม่ หรือ เจ้าบ้านซื้อบ้านต่อจากผู้อื่นและย้ายชื่อที่ค้างออกจากทะเบียนบ้าน หรือ บุคคลนั้นได้เดินทางไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานานแล้วและไม่เคยติดต่อกับทางเมืองไทย จนมีไม่ใครทราบแน่ชัดว่าอาศัยอยู่ที่ใด ดังนั้น เมื่อชื่อคนเหล่านี้ถูกย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิมโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนของที่อยู่ใหม่ จึงทำให้บุคคลเหล่านี้กลายเป็นบุคคลตกหล่น ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านปกติ และถูกนำชื่อไปไว้ในทะเบียนบ้านกลางในที่สุด (อ้างอิงจาก : https://thaiembdc.org/th/2016/06/01/consulararticle82559/)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์จาก Thai Publica