เปิดพฤติการณ์ ‘หมอโด่ง-พ.ต.นพ.วีระวุฒิ’ อดีตเลขาฯ ‘บุญทรง’ คีย์แมนสำคัญคดีระบายข้าวจีทูจีเก๊ มือดีลเอกชนขายข้าวออกจากคลังนำไปเวียนต่อ สั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คกรมการค้าต่างประเทศ นำไปฝากไว้ที่ ‘สารวัตรเหยิน’ ผอ.อคส. ก่อนศาลสั่งคุก 50 ปี
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) 50 ปี และนายสุธี เชื่อมไธสง ลูกน้องนายอภิชาติ จันทร์สกุพล อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง 32 ปี ในคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยทั้ง 2 รายหลบหนี และศาลฎีกาฯออกหมายจับไปแล้วนั้น (อ่านประกอบ : ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก‘หมอโด่ง’50 ปี-‘สุธี’ 32 ปี ทุจริตข้าวจีทูจี-หลบหนีสั่งออกหมายจับ)
คำพิพากษาศาลฎีกาฯตอนหนึ่งระบุถึงพฤติการณ์ของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิว่า เป็นเลขานุการ รมว.พาณิชย์ (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) เป็นกรรมการ กขช. และเป็นอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว รวมถึงอนุกรรมการย่อยใน กขช. อีก 3 คณะ แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจจากฝ่ายการเมือง
ทั้งนี้พ่อค้าข้าว และโรงสีจำนวนหนึ่งที่ถูกกันไว้เป็นพยานในชั้นไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้การในชั้นไต่สวนต่อ ป.ป.ช. และเบิกความในชั้นศาล ระบุว่า ได้เข้าพบ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ เพื่อขอซื้อข้าว โดย พ.ต.นพ.วีระวุฒิ แจ้งว่า ถ้าเสนอราคาเหมาะสมจะขายให้ โดยให้สั่งจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คแก่กรมการค้าต่างประเทศ หลังจากนั้นให้นำแคชเชียร์เช็คไปมอบให้กับ พ.ต.ต.ศราวุธ สกุลมีฤทธิ์ หรือสารวัตรเหยิน ผอ.อคส. (ขณะนั้น) หรือจะไปติดต่อกับคนของตนโดยตรง ซึ่งทราบภายหลังว่าคือนายนิมล รักดี หรือโจ (จำเลยที่ 25) หรือลูกน้องนายโจ แล้วจะมีคนนำหลักฐานในการเบิกข้าวออกจากคลังสินค้าไปมอบให้ โดยไม่ต้องทำสัญญาซื้อขายข้าวหรือประมูลข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ
นอกจากนี้พ่อค้าข้าว และบริษัทค้าข้าวที่ตกเป็นจำเลยคดีนี้ ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากนายนิมล รักดี หรือโจ (จำเลยที่ 25) ว่าสามารถซื้อขายข้าวกับตนได้ โดยสามารถสอบถามได้กับ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ทั้งนี้การชำระราคาข้าวให้สั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คแก่กรมการค้าต่างประเทศ ขณะเดียวกันมีการเบิกข้าวออกจากคลังสินค้าที่อ้างว่าเป็นของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เพื่อนำมาขายต่อ โดยอ้างว่าเป็นการซื้อข้าวจากกรมการค้าต่างประเทศด้วย
ส่วน พ.ต.ต.ศราวุธ หรือสารวัตรเหยิน ให้การในชั้นไต่สวน ป.ป.ช. ว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.อคส. พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ได้โทรศัพท์ประสานงานมาแจ้งว่า จะมีตัวแทนจากบริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด และบริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทค้าขายข้าวนำเอกสารมามอบให้ ขอให้เก็บรักษาไว้แล้วนำไปส่งมอบต่อ เมื่อคนของบริษัท 2 แห่ง มาถึงได้มอบซองเอกสารแต่ไม่ปิดผนึกให้ จึงเปิดซองเอกสารออกดูพบว่า เป็นเช็คธนาคารสั่งจ่ายกรมการค้าต่างประเทศ จำนวน 4 ฉบับ จากนั้นให้เลขานุการนำไปมอบให้กับ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ
คำพิพากษาศาลฎีกาฯ ระบุด้วยว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ เข้าไปมีส่วนในการนำข้าวที่ทำสัญญาดังกล่าวออกเสนอขายแก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศไทย อันแสดงให้เห็นว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ รู้เห็นตั้งแต่ต้นในการทำยุทธศาสตร์ระบายข้าวที่เปิดช่องให้มีการขายข้าวแก่รัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล แล้วแอบอ้างนำบริษัท กว่างตงฯ และบริษัท ห่ายหนานฯ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีน ให้ซื้อขายข้าวมาทำสัญญากับกรมการค้าต่างประเทศโดยมิได้มีเจตนาจะส่งออกข้าวไปต่างประเทศ เพียงแต่ต้องการเอาข้าวของรัฐทั้งหมดที่ซื้อมาในราคาต่ำ โดยอ้างการซื้อขายแบบจีทูจีมาไว้ในครอบครอง แล้วถือโอกาสนำข้าวออกขายให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศที่ต้องการราคาสูงกว่าเพื่อแสวงหากำไรอีกทอดหนึ่ง
จากข้อเท็จจริงตามพฤติการณ์เหล่านี้ ฟังได้ว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการระบายข้าวจีทูจี มีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติ พิจารณา หรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาร่วมกัน ใช้อำนาจในตำแหน่งจัดการทรัพย์สินโดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัท กว่างตงฯ และบริษัท ห่ายหนานฯ เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญาแบบจีทูจีที่ไม่มีอยู่จริง เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม อันเป็นการตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ และละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคา โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 4 วรรคหนึ่ง มาตรา 10 และ 12 และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่จัดการทรัพย์สินโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 กับเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการทรัพย์ร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151
เมื่อการกระทำเป็นความผิดเฉพาะแล้ว จึงไม่ต้องปรับบททั่วไปตามมาตรา 157 อีก เป็นการกระทำความผิดตามสัญญา 4 ฉบับ เป็นความผิดรวม 4 กระทง กระทงละ 18 ปี รวม 72 ปี แต่โทษจำคุกสูงสุดได้ไม่เกิน 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา จึงให้ลงโทษจำคุก 50 ปี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
บ.ค้าข้าวเข้าพบ-โทรคุย-จ่ายเงิน‘วีระวุฒิ’! ข้อมูลใหม่คดีระบายข้าวจีทูจี
เปิดพฤติการณ์เอกชน-โรงสีจ่ายเช็ค‘วีระวุฒิ’ก่อนเวียนข้าวขายใน ปท.คดีจีทูจีเก๊
อายัดเช็ค 1.8 พันล.หลักฐานสำคัญมัดข้าวจีทูจีเก๊!-ป.ป.ช.พบของเครือสยามอินฯ
ป.ป.ช.จ่อชง ปปง.เอาผิด‘วีระวุฒิ-พวก’ คดีฟอกเงินข้าวจีทูจี! หลังศาลสั่งยึด 896 ล.
ศาลฎีกาฯพิพากษายึดทรัพย์ 896 ล.'วีระวุฒิ'พฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติพันคดีข้าวจีทูจี
หมายจับรอบ2‘หมอโด่ง-สุธี’!ศาลฎีกาฯพิจารณาลับหลังคดีจีทูจีเก๊-ตรวจหลักฐาน26ต.ค.
ไม่ให้ประกันหวั่นหนี!คุก'บุญทรง'42ปี 'ภูมิ'36ปี'เสี่ยเปี๋ยง'48ปีคดีจีทูจี-ชดใช้1.6หมื่นล.
INFO:จำแนกครบ17จำเลย-โทษเรียงคนคดีทุจริตข้าวจีทูจีเจ๊งหมื่นล.ยกฟ้อง 8-ออกหมายจับ3