
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด ส่งหนังสือถึงกองบรรณาธิการ สำนักข่าวอิศรา ชี้แจง ข่าว เปิด 3 ชื่อ บริษัทส่งออกทองคำไปกัมพูชามากที่สุด ระบุ บริษัทฯ เป็นเพียงตัวกลาง-ไม่กระทบต่อค่าเงินบาท ควบคุมและตรวจสอบลูกค้าก่อนอย่างรัดกุม ตามวิธีการของ ปปง. เผย กัมพูชา-ประเทศเล็ก เอาเงินจากไหนมาซื้อ ตรวจสอบพบ แลกทองเก่ามาซื้อทองใหม่ ยืนยันว่า ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและปฏิบัติตามกฎหมาย
สืบเนื่องจากกรณีคณะอนุกรรมาธิการ (อนุกมธ.) การเงิน การคลัง สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรมาให้ข้อมูล กรณีการส่งออกทองคำไปกัมพูชามีสัดส่วนสูงผิดปกติ ทั้งนี้ ข้อมูลมูลค่าส่งออกทองคำไปกัมพูชา พ.ศ.2566 – 2568 (มกราคม-กรกฎาคม) มากที่สุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับ 1 บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (แม่ทองสุก) 3 ปี มูลค่ารวม 131,582.06 ล้านบาท อันดับ 2 บริษัท รักษาความปลอดภัย บริงค์ส (ประเทศไทย) 3 ปี มูลค่ารวม 48,184.77 ล้านบาท และ อับดับ 3 บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัซ จำกัด (ม.ค.-ก.ค.68) มูลค่า 613 ล้านบาท
อ่านข่าวประกอบ : เปิด 3 ชื่อ บริษัทส่งออกทองคำไปกัมพูชามากที่สุด - ‘แม่ทองสุก’ สามปี 1.31 แสนล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด ได้ทำหนังสือถึงกองบรรณาธิการ สำนักข่าวอิศรา ขอชี้แจงกรณีดังกล่าว มีสาระสำคัญ 6 ข้อ อาทิ บริษัทฯ ทำหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง ไม่กระทบต่อค่าเงินบาท เนื่องจากเป็นการซื้อ-ขาย เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) บริษัทฯ มีการควบคุมและตรวจสอบลูกค้าก่อนอย่างรัดกุม ตามวิธีการของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยยืนยันว่า บริษัทฯ ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและปฏิบัติตามกฎหมาย โดยมีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
ตามที่ทาง สำนักข่าวอิสรา ได้นำเสนอข่าว เปิด 3 ชื่อ บริษัทส่งออกทองคำไปกัมพูชามากที่สุด - 'แม่ทองสุก' สามปี 1.31 แสนล้านบาท
บริษัทมีความกังวลใจเรื่องการแสดงความคิดเห็นของผู้ติดตามผ่าน เฟซบุ๊ค แฟนเพจ สำนักข่าวอิศรา จึงขอชี้แจงดังนี้
1. การค้าขายของบริษัทฯ ไม่ได้ใช้ทองคำจากประเทศไทยไปขาย เนื่องจากผู้ซื้อต้องการทองคำจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์เป็นหลัก จึงเป็นการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศเพื่อขายต่อ บริษัทฯ ทำหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง
2. การชำระเงินค่าทองคำระหว่างกันนั้นไม่กระทบต่อค่าเงินบาท เนื่องจากเป็นการซื้อ-ขาย เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) บริษัทฯ ซื้อทองคำจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพื่อส่งออกไปกัมพูชา ดังนั้นปริมาณทองคำในประเทศไทยยังคงเท่าเดิม ไม่ได้หายไปและไม่กระทบต่อค่าเงินบาท
3. กรณีสงสัยว่ากัมพูชาเป็นประเทศเล็ก นำเงินจากไหนมาซื้อทองนั้น จากการตรวจสอบพบว่า กัมพูชาก็ใช้วิธีการแลกทองเก่าจากประเทศของเค้าที่มี มาซื้อทองใหม่จากเรานั้นเอง
ดังนั้น การซื้อขายจึงเปรียบเหมือนการแลกสินค้าระหว่างกันซึ่งเป็นทองคำ เงินส่วนต่างชำระเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งไม่มากนัก เปรียบเหมือนการซื้อขายทองในประเทศของบ้านเรา ที่ร้านทองในต่างจังหวัดก็จะนำทองเก่ามาแลกซื้อทองใหม่ในกรุงเทพเพื่อนไปขายต่อนั่นเอง
4. ในการค้าขายกับประเทศกัมพูชา บริษัทฯ มีการควบคุมและตรวจสอบลูกค้าก่อนอย่างรัดกุม ตามวิธีการของปปง. ที่เรียกว่า KYC และ CDD ซึ่งหมายความว่าผู้ซื้อมีตัวตนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งยังได้รับอนุญาตซื้อขายทองระหว่างประเทศอีกด้วย
5. วิธีการรับ-ส่งมอบทองคำ บริษัทฯมีการดำเนินผ่านพิธีการทางศุลกากรอย่างถูกต้อง มีเอกสารกำกับใบขนและใบส่งมอบตามหลักการซื้อขายระหว่างประเทศ
6. ทองคำที่ส่งออกระหว่างประเทศ บริษัทใช้บริการโลจิสติกส์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นคนดำเนินการผ่านพิธีการตามกฎหมายทางศุลกากร และส่งมอบทางเครื่องบิน ไม่ใช่การลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ
สรุปโดยรวม: บริษัทฯ ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งในด้านการตรวจสอบลูกค้า การส่งมอบทองคำ และการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีความโปร่งใส ถูกต้อง และไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจของประเทศ


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา