
"...เหล่านี้ คือ ข้อมูลประวัติโดยสังเขปของพยานทั้ง 5 ปากที่ น.ส.แพทองธารขอให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน จากข้อมูลจะเห็นว่าพยานบางรายได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลแพทองธารให้ได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น บางรายก็มีความใกล้ชิดกับองคมนตรีและมีความเกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร บิดาของน.ส.แพทองธาร ..."
กรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีกำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคลจำนวน 2 ปาก คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 10.30 น. ในคดีคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้อง) กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา พร้อมนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือ และลงมติในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. นัดฟังคำวินิจฉัย เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ก่อนหน้านั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ยื่นคำชี้แจงคดีนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยยืนยันว่า การกระทำของตนเองตามข้อกล่าวหาของผู้ร้อง ไม่เป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการการเมือง พ.ศ. 2564 แต่อย่างใด และได้ขออนุญาตให้ไต่สวนพยานบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ปาก เพื่อให้ศาลฯ ได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน โดยคำนึงถึงบริบททางภูมิรัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ดำรงอยู่ต่อเนื่องหลายรัฐบาล และใคร่ขอเรียนเป็นกรณีพิเศษให้ศาลฯ โปรดพิจารณาไต่สวนพยานบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ราย ได้แก่
1. นายฉัตรชัย บางชวด ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้ทำงานร่วมกับ ผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ และยังเป็นบุคคลที่ทราบถึงเจตนาอันแท้จริงของตนเองในการสนทนากับสมเด็จฮุนเซน
2. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้สั่งการฝ่ายปกครองด้านชายแดน
3. พลเอก ภุชงค์ รัตนวรรณ ข้าราชการบำนาญในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกัมพูชา ทำงานด้านปฏิบัติในกัมพูชามาตั้งแต่ยศร้อยโท และทำงานอยู่กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาตั้งแต่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพที่ 2 และผู้บัญชาการรบพิเศษอย่างต่อเนื่อง
4. พลโท พุฒิพงษ์ ชีพสมุทร ตำแหน่งรองเจ้ากรมพระธรรมนูญ ในฐานะผู้ชำนาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของทหารและเรื่องอำนาจอธิปไตยของประเทศ
5. นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ อดีตทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น อดีตทูตไทยประจำประเทศฟิลิปปินส์ และอดีตทูตไทยประจำประเทศรัสเซีย ในฐานะผู้ชำนาญด้านการต่างประเทศ และสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงวิธีปฏิบัติทางการทูตในการเจรจาแบบไม่เป็นทางการ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศราสืบค้นข้อมูลประวัติโดยสังเขปของพยานทั้ง 5 รายเพิ่มเติม มานำเสนอให้สาธารณชนรับทราบโดยทั่วกัน มีรายละเอียด ดังนี้
@ นายฉัตรชัย บางชวด

นายฉัตรชัย เกิด 26 มีนาคม 2510 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์เกษตร) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และระดับปริญญาโทพัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนาการเศรษฐกิจ) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
นายฉัตรชัย รับราชการที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านความมั่นคงภายในประเทศ ผู้อำนวยการสำนักประเมินภัยคุกคาม ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนความมั่นคง เป็นต้น กระทั่งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่รับผิดชอบงานหลักด้านความมั่นคงภายในประเทศ และการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนายฉัตรชัยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในยุคของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566
กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติ แต่งตั้งนายฉัตรชัยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้เสนอ
@ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์

นายอรรษิษฐ์ ชื่อเล่น ป็อป เกิด 16 กรกฎาคม 2514 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต (การปกครอง) คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และรัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
นายอรรษิษฐ์ เริ่มต้นรับราชการที่กระทรวงมหาดไทยในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 3 สำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนจะก้าวหน้าในตำแหน่งทางราชการเรื่อยมา กระทั่งได้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี จากนั้นได้เป็นรองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
ในปี 2560 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ต่อมาในปี 2562 ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตาก จากนั้นในปี 2563 ย้ายเข้ามาดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี 2565 ได้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ในปี 2566 ย้ายมาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง
กระทั่งวันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2567 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นายอรรษิษฐ์ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ต่อจากนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ และราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ว่ามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอรรษิษฐ์ ให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567
@ พลเอก ภุชงค์ รัตนวรรณ

ปรากฏข้อมูลว่า พล.อ.ภุชงค์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานองคมนตรี และเป็นอดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) และปรากฏข้อมูลว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 10 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ภุชงค์ เคยดำรงตำแหน่งจเรทหารทั่วไป ลำดับที่ 13 ในสำนักงานจเรทหาร (กองบัญชาการกองทัพไทย) ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2552 – 30 กันยายน 2554 และเป็นหนึ่งในบรรดาหน่วยงานบัญชาการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบและบังคับใช้ทางราชการด้านทหาร
นอกจากนี้มีประวัติการฝึกอบรมและทำงานในหน่วยกองบัญชาการสงครามพิเศษ (Special Warfare Command) ซึ่งเชื่อมโยงกับผลงานต่างประเทศจากเอกสารสายลับอเมริกัน (Cable 2008BANGKOK3288_a) ระบุว่า Lt Gen Puchong Rattanawan (ขณะนั้นเป็น พลตรี และในเวลาต่อมาเป็นพลเอก) ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังสงครามพิเศษ และเคยเข้าร่วมคณะเจ้าหน้าที่กองทัพไปฝึกที่ USA SOCOM (Fort Bragg, MacDill AFB) เป็นที่ยืนยันว่ามีบทบาทในการพัฒนาความร่วมมือทหารพิเศษกับต่างประเทศ
@ พลโท พุฒิพงษ์ ชีพสมุทร

ปรากฏข้อมูลว่า พล.ท.พุฒิพงษ์ ในปี 2565 เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารและเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย มูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร
@ นายธนาธิป อุปัติศฤงค์

ปรากฏข้อมูลว่า นายธนาธิป สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ประวัติศาสตร์ ปรัชญาและการเมือง) มหาวิทยาลัยแมคควอรี่ เครือรัฐออสเตรเลีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานและกรรมการในบริษัท 5 แห่ง ได้แก่ กรรมการอิสระ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) กรรมการบรรษัทภิบาล บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ประธานกรรมการบริษัทและกรรมการอิสระ บริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กรรมการอิสระ บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี
*************
เหล่านี้ คือ ข้อมูลประวัติโดยสังเขปของพยานทั้ง 5 ปากที่ น.ส.แพทองธารขอให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน จากข้อมูลจะเห็นว่าพยานบางรายได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลแพทองธารให้ได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น บางรายก็มีความใกล้ชิดกับองคมนตรีและมีความเกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร บิดาของน.ส.แพทองธาร
ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะกำหนดนัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาให้ปากคำในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เพียงแค่ 2 ปากเท่านั้น เพื่อเปิดโอกาสให้ได้สิทธิโต้แย้งเพื่อความเป็นธรรมตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา