.
"...‘งูเห่าสีส้ม’ ทั้งภาค 1-2 มีรวมกันอย่างน้อย 19 คน และทั้งหมดถูกส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ปี 2566 ในสีเสื้อพรรคอื่น แต่ ‘สอบตก’ กันถ้วนหน้า เรียกได้ว่าเป็น ‘บทเรียน’ ให้แก่บรรดา ‘งูเห่า’ หากหักหลังทรยศอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งทำให้ ‘พรรคส้ม’ ค่อนข้างมั่นใจว่าในนามพรรค ปชน.จะไม่มีงูเห่าเกิดขึ้นอีกแล้ว..."
อีกไม่ถึง 10 วันจะถึงคิว ‘ซักฟอก’ รัฐบาล ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 โดยนับเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกนับตั้งแต่การเลือกตั้ง 2566 ซึ่งผ่านมาแล้ว 2 นายกฯ (เศรษฐา ทวีสิน-แพทองธาร ชินวัตร) เบื้องต้นตามแพลนที่มีการเปิดเผยออกมา คาดว่าจะนัดวันที่ 24 มี.ค.นี้เป็นวันแรกของศึกซักฟอกดังกล่าว
ความคืบหน้าล่าสุดขณะนี้ ‘ฝ่ายค้าน’ นำโดยพรรคประชาชน (ปชน.) ยอมถอยตัดชื่อ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกฯ พร้อมคำว่า ‘ผู้เป็นบิดา’ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯคนที่ 31 ออกจากญัตติซักฟอกเรียบร้อยแล้ว โดยใช้คำว่า ‘คนในครอบครัว’ แทน หลังจากงัดข้อกับ ‘ฝ่ายรัฐบาล’ มาราว 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ดียังเหลือเงื่อนไข ‘วัน-เวลา’ ในการซักฟอกว่าจะได้กี่วัน และกี่ชั่วโมง โดย ‘ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ’ หัวหน้าพรรค ปชน.ในฐานะ ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ยังยืนกรานเวลา 30 ชม. เป็นของฝ่ายค้านทั้งหมด เท่ากับว่าต้องมีการซักฟอกไม่ต่ำกว่า 2 วัน และลงมติ 1 วัน อย่างไรก็ดีฝ่ายรัฐบาลยังยื้อโดยใช้สูตร 23+7 คือ ฝ่ายค้านได้เวลา 23 ชั่วโมง ส่วนรัฐบาลชี้แจง 7 ชั่วโมง ซึ่ง ‘วิสุทธิ์ ไชยณรุณ’ ประธานวิปรัฐบาล ออกปากว่า “นี่ก็ถอยที่สุดแล้ว ถอยมากกว่านี้ก็ตกแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว”
ดังนั้นบทสรุปเรื่องนี้คงต้องรอการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วม 3 ฝ่าย (วิป 3 ฝ่ายคือ วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิป ครม.) อีกครั้ง 19 มี.ค.นี้ แต่ว่ากันว่ามีแนวโน้มค่อนข้างสูง หาก ปชน.ตัดชื่อ ‘ทักษิณ’ ออก แล้วเปลี่ยนไปใช้คำอื่น จะได้เวลาซักฟอกเพิ่มเติม แต่จะได้ตามที่หวังไว้หรือไม่ ต้องติดตาม
ประเด็นถัดมาที่น่าสนใจ การออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งแรกของ ‘ทักษิณ’ ผู้นำทางจิตวิญญาณ ‘เพื่อไทย’ หลังจากมีชื่ออยู่ในญัตติซักฟอกของฝ่ายค้าน ตอบคำถามสื่อเมื่อ 14 มี.ค.ที่ผ่านมาอย่างร้อนแรง โดยตอบคำถามหนึ่งกรณีถูกกล่าวหาว่างเป็น ‘นั่งร้าน’ อยู่ด้านหลังนายกฯ ถือว่าแรงไปหรือไม่
@ ทักษิณ ชินวัตร
‘ทักษิณ’ สวนกลับทันควันว่า “ถามว่าประเด็นนี้ได้ปรึกษาผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้วหรือไม่ เขาได้ปรึกษากันยังว่า จะเล่นประเด็นนี้” แม้จะถูกสื่อถามย้ำว่าหมายความว่าอย่างไร ‘ทักษิณ’ ยิ้มก่อนตอบว่า “แล้วนายก อบจ.ลำพูน มีใครคอยช่วยดูแลอยู่หรือเปล่า”
คำว่า ‘ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่’ ในที่นี้ ‘ทักษิณ’ หมายความถึง ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าและหนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ เขาไม่ตอบ แต่ในแวดวงการเมืองรับรู้กันดีว่า ‘ธนาธร’ คือศาสดาสีส้ม ผู้อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนอุดมการณ์ของ ‘พรรคส้ม’ มาโดยตลอด นับตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล มาถึงพรรค ปชน. โดยปัจจุบันเขาไปเป็นที่ปรึกษานายก อบจ.ลำพูน แบบไม่เป็นทางการ
ดังนั้นหาก ‘ทักษิณ’ หมายความถึง ‘ธนาธร’ ย่อมเป็นการ ‘ย้อนเกล็ด’ ไปยัง ‘พรรคคนรุ่นใหม่’ ว่า ถ้ากล่าวหา ‘ทักษิณ’ คือนั่งร้าน ‘แพทองธาร’ แล้ว ‘ธนาธร’ เป็นนั่งร้านให้ ‘พรรค ปชน.’ หรือเปล่า?
ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ ‘ธนาธร’ คือคนเปิดปากยอมรับว่า บินไปพบ ‘ทักษิณ’ ที่ฮ่องกง ก่อนการเลือกตั้งปี 2566 จริง โดยมีเสียงเล่าอ้างว่า เพื่อจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ดีดีลดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และสุดท้ายเล่ห์กลการเมือง กลไกในรัฐธรรมนูญ และ 250 สว.ก็ผลัก ‘ปชน.’ ที่เป็นพรรคชนะการเลือกตั้งด้วยจำนวน สส.มากที่สุด 151 ที่นั่ง ไปเป็น ‘ฝ่ายค้าน’
เรียกได้ว่าเป็นการ ‘เปิดแผล’ พรรคส้ม หลังเจ้าตัวโดนดาหน้าถล่มสารพัดเรื่อง ‘ส.ท.ร.’ ให้รัฐบาล-นายกฯ ย้อนความกดดันจากศึกซักฟอก กลับไปยัง ‘ปชน.’ อีกครั้ง หากต้องตอบคำถามดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการวัดกำลังกันอีกครั้งระหว่าง 2 ศาสดา ‘สีแดง-สีส้ม’
ท่ามกลาง ‘สงคราม 3 ก๊กการเมือง’ ระหว่าง ‘ก๊กแดง-ก๊กส้ม’ ยังคงดำเนินไป แต่ในสภาฯเริ่มได้ยินเสียงเล่าอ้างว่า ศึกซักฟอกครั้งนี้อาจมี ‘งูเห่าภาค 3’ เกิดขึ้น กระทั่ง ‘ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า’ สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ออกมาคอนเฟิร์มว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะมี 10 สส.ฝ่ายค้าน ร่วมลงมติไว้วางใจให้แก่นายกฯด้วย
ทำเอา ‘ฝ่ายค้าน’ จ้าละหวั่น เริ่มเล็งหา ‘คนทรยศ’ กันยกใหญ่ เพราะต้องไม่ลืมว่า ในการเตรียมข้อมูลยื่นซักฟอกที่ผ่านมา เกิดเหตุ ‘เกลือเป็นหนอน’ แอบส่ง ‘ข้อสอบ’ ซักฟอกให้กับรัฐบาลรับรู้ก่อน ซึ่งผิดประเพณีการเป็นฝ่ายค้านอย่างรุนแรง ทำให้ ปชน.ต้องแก้เกมมาซักฟอกนายกฯคนเดียว แทนที่จะซักฟอกนายกฯ+รัฐมนตรีรวม 10 คน
เบื้องต้น หลายคนโฟกัสไปที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ สส.จำนวนไม่น้อย มีความใกล้ชิดกับ ‘เครือข่ายผู้กอง’ แต่ ‘ไพบูลย์ นิติตะวัน’ เลขาธิการ พปชร.ยืนยันว่า ในพรรคไม่มี ‘งูเห่า’ โหวตไว้วางใจนายกฯแน่นอน เมื่อหยั่งเสียงเชิงลึก ก็พบว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่าจะไร้งูเห่า
@ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
แม้ข้อเท็จจริงจะมี สส.พปชร.จำนวนไม่น้อย ใกล้ชิดกับ ‘เครือข่ายผู้กอง’ แต่จังหวะไทม์มิ่งยังไม่ถึงคิวที่จะโชว์ตัวเป็น ‘งูเห่า’ หรือย้ายพรรคไปกล้าธรรมในตอนนี้ ทั้งหมดยังอยู่ระหว่างสงวนท่าทีอยู่ แถม ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งแรกด้วย จึงเป็นไปได้ยากที่ สส.พปชร.จะเป็น ‘งูเห่า’ ในศึกซักฟอกครั้งนี้ แต่การเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอน คงต้องรอจับตาดูวันลงมติอีกครั้ง
ทั้งนี้กูรูการเมืองเริ่มเล็งว่า ‘งูเห่า’ รอบนี้อาจเป็น สส.พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) หรือของพรรค ปชน.หรือไม่ โดยในส่วนของ สส.ทสท.หลายครั้งปรากฏเหตุการณ์โหวต ‘สวนมติฝ่ายค้าน’ อยู่เนือง ๆ ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ที่ สส.พรรคนี้อาจกลายเป็น ‘งูเห่า’ แต่ในส่วนของ สส.ปชน. ก็มิอาจประมาทได้เช่นกัน
ต้องไม่ลืมว่า ในช่วงก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะยุบพรรคก้าวไกล เกิดปรากฎการณ์ ‘งูเห่าสีส้มภาค 3’ มาแล้ว โดยแกนนำพรรคส้ม เคยเล่าว่า มี สส.บางกลุ่มในพรรค เริ่มรวมตัวเข้าพบบิ๊กเนมการเมืองฝ่ายรัฐบาล หวังพลิกขั้วย้ายข้างหากพรรคถูกยุบ แต่ด้วยสถานะพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนั้นยังเข้มแข็ง และไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรับ สส.สีส้ม เข้ามา ทำให้ดีลดังกล่าวไม่เกิดขึ้น
แต่ตอนนี้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยน รอยร้าวลึกระหว่าง ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ ยากจะประสานกลับมาเป็นเหมือนเดิม จนมีการปล่อยข่าวว่า ในไม่ช้ารัฐบาลสีแดงอาจอัปเปหิ ‘ค่ายน้ำเงิน’ พ้นพรรคร่วม ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องรวบรวมเสียง สส.เพิ่มเติม ดังนั้นกระแส ‘งูเห่าภาค 3’ จึงกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้รัฐบาลในอนาคต หากจำเป็นต้องตัดทิ้ง ‘ค่ายน้ำเงิน’ จริง ๆ
สำหรับเหตุการณ์ ‘งูเห่าสีส้ม’ เคยเกิดมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง นับตั้งแต่ยุคพรรคอนาคตใหม่ โดยครั้งแรกเกิดเมื่อปี 2562 มี 4 คน ได้แก่ ศรีนวล บุญลือ กวินนาถ ตาคีย์ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา และจารึก ศรีอ่อน โดยทั้งหมดถูกขับออกจากพรรค
ต่อมาครั้งที่สองเกิดขึ้นหลังยุบพรรคอนาคตใหม่ปี 2563 มี 9 สส.ไม่ย้ายตามไปอยู่ที่พรรคก้าวไกล ได้แก่ มณฑล โพธิ์คาย โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี กฤติเดช สันติวชิระกุล เอกการ ซื่อทรงธรรม อนาวิล รัตนสถาพร กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ฐิตินันท์ แสงนาค สำลี รักสุทธิ และวิรัช พันธุมะผล โดยมี 6 สส.ที่ไม่ได้ถูกขับออกจากพรรค แต่ไปนั่งเก้าอี้พรรคการเมืองอื่น ได้แก่ คาม พลพรกลาง (ต่อมาไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย) ขวัญเลิศ พานิชมาท เอกภพ เพียรพิเศษ พีรเดช คําสมุทรจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ และเกษมสันต์ มีทิพย์ เป็นต้น
โดย ‘งูเห่าสีส้ม’ ทั้งภาค 1-2 มีรวมกันอย่างน้อย 19 คน และทั้งหมดถูกส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ปี 2566 ในสีเสื้อพรรคอื่น แต่ ‘สอบตก’ กันถ้วนหน้า เรียกได้ว่าเป็น ‘บทเรียน’ ให้แก่บรรดา ‘งูเห่า’ หากหักหลังทรยศอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งทำให้ ‘พรรคส้ม’ ค่อนข้างมั่นใจว่าในนามพรรค ปชน.จะไม่มีงูเห่าเกิดขึ้นอีกแล้ว
แต่ดั่งสุภาษิต ‘ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร’ ในแวดวงการเมืองไทย ดังนั้นในศึกซักฟอก ปชน.จะเผชิญกับ ‘งูเห่า’ ซ้ำรอยเมื่อครั้ง ‘อนาคตใหม่-ก้าวไกล’ อีกหรือไม่ ต้องติดตาม