"...เมื่อมีการเปิดเทปลับต่อสาธารณะทำให้การเลือกประธานองค์กรระดับชาติยังไม่จบ เพราะยังต้องรอการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ระหว่างนี้อดีตนายพลสีกากีคงต้องใช้ประโยชน์จากเทปลับนี้เพื่อขัดขวางไม่ให้กรรมการองค์กรระดับชาติขึ้นเป็นประธานอย่างสุดกำลัง เพราะมิเช่นนี้ ชะตาชีวิตของตนเองอาจต้องจบเห่ภายใต้การการเชือดเฉือนขององค์กรระดับชาตินี้ซึ่งตนเองถูกสอบสวนอยู่เช่นกัน..."
เป็นการเขียนเรื่องสั้นครั้งแรกในชีวิต ดังนั้นสำนวนภาษาอาจไม่สละสลวยน่าอ่านมากนัก
ถ้าเรื่องที่แต่งชิ้นนี้ไปพ้องกับชีวิตจริงของใครบ้างคนก็ต้องขออภัย
ณ คฤหาสน์ของ ‘ท่านประธาน’ ย่านนนทบุรี
กรรมการองค์กรระดับชาติ กับอดีตนายพลสีกากีปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
เหตุที่ทั้งสองมาที่คฤหาสน์ของท่านประธาน ถ้าจะเล่าอย่างละเอียดก็คงยืดยาว
เอาสรุปสั้น ๆ ว่า ทั้งสองเคยมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จนกระทั่งฝ่ายอดีตนายพลสีกากีออกจดหมายแฉพฤติกรรมของกรรมการองค์กรระดับชาติ ร้องเรียนต่อประธานองค์กรระดับชาติแห่งนี้
นอกจากนั้นยังไปล่ารายชื่อชาวบ้านกว่า 20,000 รายชื่อ ยื่นต่อท่านประธาน เพื่อส่งให้ประธานศาลสูงตั้งคณะไต่สวนพิเศษขึ้นมาไต่สวนกรรมการองค์กรระดับชาติคู่กรณี
แต่เวลาผ่านไประยะหนึ่ง ไม่มีใครทราบเหตุผล ทั้งสองฝ่ายเกิดตกลงไกล่เกลี่ยกันได้ จนกระทั่งอดีตนายพลสีกากีได้ไปคุยกับท่านประธานขอให้ยุติเรื่อง เตะคดีออก ไม่ต้องส่งให้ประธานศาลสูงตั้งคณะไต่สวนพิเศษ
จากนั้นอดีตนายพลสีกากีได้นัดหมายกับกรรมการองค์กรระดับชาติคู่กรณีไปที่คฤหาสน์ท่านประธานเพื่อขอบคุณที่กรุณายุติคดีไม่ส่งเรื่องให้ประธานศาลสูงดำเนินการต่อ
เมื่อคู่กรณีทั้งสองเข้าไปนั่งในห้องรับแขกโดยกรรมการองค์กรระดับชาติ นั่งใกล้กับท่านประธาน ขณะที่อดีตนายพลสีกากีนั่งตรงกันข้าม
เมื่อเสิร์ฟน้ำชากาแฟเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มพูดคุยกัน เข้าประเด็นเรื่องล่ารายชื่อดำเนินคดีกับกรรมการองค์กรระดับชาติ
ท่านประธาน “ได้คุยกับเจ้าหน้าที่แล้ว มันก็มีช่องโหว่ ที่จะยุติเริ่องได้”
กรรมการองค์กรระดับชาติ “ขอบคุณครับ”
จากนั้นมีการสอบถามถึงเรื่อง การเลือกประธานองค์กรระดับชาติคนใหม่
กรรมการองค์กรระดับชาติ “ถ้าสภาเขากระโดงโหวตผ่านอีกคนหนึ่งเป็น 7 คน ก็เลือกประธานได้ครับ ไม่ต้องรอแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ”
ขณะที่ทั้งสองสนทนากันไม่มีใครทราบว่า อดีตนายพลสีกากีที่ได้ซ่อน mini spy camera หรือกล้องสอดแนมไว้ในเสื้อสูท ดังนั้นบทสนทนาทั้งหมดจึงบันทึกไว้
ไม่มีใครรู้ว่า อดีตนายพลสีกากีมีแผนการอย่างไร
จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณกว่า 2 เดือน ท่านประธานสั่งยุติเรื่องการล่ารายชื่อเพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณีของอดีตนายพลสีกากี นอกจากนั้นกรรมการองค์กรระดับชาติยังได้รับเลือกเป็นประธานสมใจหมายอีกด้วย
แต่แล้ว จู่ ๆ เหมือนฟ้าผ่า เมื่อรายการวิเคราะห์ข่าว ทางทีวีดิจิทัลช่องหนึ่ง นำเทปลับการสนทนาของท่านประธานกับกรรมการองค์กรระดับชาติมาออกอากาศ เปิดโปงในทำนองว่า เป็น ‘บิ๊กดีล’เพื่อเคลียร์ให้ กรรมการองค์กรระดับชาติหลุดจากคดีและได้รับเลือกประธานองค์กรในที่สุด
เมื่อมีการเปิดเทปลับต่อสาธารณะทำให้การเลือกประธานองค์กรระดับชาติยังไม่จบ เพราะยังต้องรอการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
ระหว่างนี้อดีตนายพลสีกากีคงต้องใช้ประโยชน์จากเทปลับนี้เพื่อขัดขวางไม่ให้กรรมการองค์กรระดับชาติขึ้นเป็นประธานอย่างสุดกำลัง
เพราะมิเช่นนี้ ชะตาชีวิตของตนเองอาจต้องจบเห่ภายใต้การการเชือดเฉือนขององค์กรระดับชาตินี้ซึ่งตนเองถูกสอบสวนอยู่เช่นกัน
เรื่องสั้นเรื่องนี้ยังไม่จบ แต่จะมีตอนต่อไปหรือไม่ ไม่กล้ายืนยัน
แต่วลีที่เป็นอมตะที่นำมาใช้เตือนใจได้ในกรณีได้คือ “ไม่มีสัจจะในหมู่โจร”
********
หมายเหตุ : ภาพประกอบปก ขออนุญาตยืมมาจากคลิปทางทีวีดิจิทัลช่องหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายเหตุการณ์ในเรื่องสั้นเรื่องนี้