เปิดผลการลงมติคัดเลือกประธานบอร์ด ธปท. เสียงข้างมาก 4 เสียง เทให้ ‘กิตติรัตน์ ณ ระนอง’ อดีตรองนายกฯ-รมว.คลัง ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดำรงตำแหน่ง ‘ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ’ ส่วน แคนดิเดตอีก 2 คน ‘กุลิศ สมบัติศิริ’ อดีตปลัดพลังงาน 2 เสียง – ‘สุรพล นิติไกรพจน์’ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 เสียง พิชัย เผย ยังไม่ได้รับรายชื่อ ยัน แบงก์ชาติยังมีความเป็นอิสระ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สืบเนื่องจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุม โดยใช้เวลาประชุมกว่า 5 ชั่วโมง และได้แจ้งผลการลงมติเลือกประธานบอร์ด ธปท.และบอร์ด ธปท. เพียงกระดาษเพียงแผ่นเดียว และไม่ระบุรายชื่อบุคคลที่ได้รับความเห็นชอบเป็นประธานบอร์ดธปท. และไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
แหล่งข่าวจาก ธปท. เปิดเผยสำนักข่าวอิศราถึงกรณีคณะกรรมการคัดเลือกประธานคณะกรรมการและคณะกรรมการ ธปท.ได้มีมติเลือกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเสนอโดยกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ธปท.ว่า คณะกรรมการเสียงข้างมาก จำนวน 4 เสียง ที่ลงมติเลือกนายกิตติรัตน์ ส่วนอีก 3 เสียง แบ่งลงให้กับนายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน 2 เสียง และอีก 1 เสียง ลงคะแนนให้กับนายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกสองคนคือนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนางชุณหจิต สังข์ใหม่ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง คณะกรรมการคัดเลือกลงมติเลือกด้วยเสียงข้างมากไม่มีใครได้รับคะแนนเสียงเอกฉันท์
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนต่อไปฝ่ายเลขานุการฯ จะดำเนินการเสนอชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานบอร์ด ธปท. ต่อนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อครม. เห็นชอบแล้วให้ทูลเกล้าฯ เพื่อทรงแต่งตั้ง ส่วนกรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จะนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวคณะกรรมการคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติได้ลงมติเลือกด้วยเสียงข้างมากเห็นชอบให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ตนยังไม่ทราบ ต้องรอให้คณะกรรมการคัดเลือกฯยังไม่ได้ส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติมาให้ตนก่อน
เมื่อถามย้ำว่า รายชื่อเป็นไปตามข่าวหรือไม่นายพิชัยกล่าวว่า ตนคิดว่าคณะกรรมการสรรหาคงไม่บอกใคร ตนก็เห็นตามข่าวเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็รอตามขั้นตอนของกฎหมายมาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
เมื่อถามว่า หากเป็นชื่อนายกิตติรัตน์ จะต้องรับแรงกระแทก และถูกมองว่ามีการเมืองแทรกแซงหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ตนมองว่าเป็นใครก็เหมือนกัน เพราะหน้าที่ถูกเขียนในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธปท. ไว้ชัดเจน ว่าประธานบอร์ดแบงก์ชาติ และคณะกรรมการแบงก์ชาติต้องทำหน้าที่อย่างไร และของเดิมก็แบ่งหน้าที่ไว้ชัดเจน ว่าคณะกรรมการชุดใหญ่ดูแลอะไร และ 4 ชุดที่เหลือมีหน้าที่อะไร ฉะนั้นทุกอย่างมีหน้าที่ชัดเจนและมีความเป็นอิสระ
เมื่อถามว่า การทำงานของรัฐบาลกับ ธปท.จะง่ายขึ้นหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ในส่วนรัฐบาลก็คือตน ซึ่งตนก็ทำงานง่ายอยู่แล้ว และไม่มีปัญหาเพราะ เชื่อว่าในความเป็นประเทศ รัฐบาลดูเรื่องคลัง และแบ่งหน้าที่เรื่องเงินในภาพใหญ่ให้ธปท.ดู และเมื่อดูแล้วก็พยายามปรับจูนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ฉะนั้นหากมีการพูดคุยกันบ่อยขึ้น มันก็จะจูนเข้าหากัน
เมื่อถามย้ำว่า เมื่อเป็นชื่อนายกิตติรัตน์ จะถือว่าเป็นแต้มต่อหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า เราไม่ได้สู้กัน แต่เราทำงานร่วมกัน
สำหรับคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ธปท. จำนวน 7 คน ประกอบด้วย 1.นายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
2.นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ 3.นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 4.นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ 5.นายอัชพร จารุจินดา อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
6.นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ 7.นายสุทธิพล ทวีชัยการ อดีตเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)