นิด้าโพลเผยประชาชน 55.20% คิดว่าพรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบทางลบกรณีคดีตากใบหมดอายุความ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2567 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ ของประชาชน เรื่อง “พรรคการเมืองใดเดือดร้อนจากกรณีตากใบ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5-8 พฤศจิกายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,067 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีต่อพรรคการเมืองหลังจากคดีตากใบหมดอายุความ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็น จากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 95.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ได้รับผลกระทบในทางลบจากกรณีคดีตากใบที่หมดอายุความ พบว่า ตัวอย่าง
ร้อยละ 55.20 ระบุว่า พรรคเพื่อไทย
ร้อยละ 29.99 ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองใด
ร้อยละ 4.69 ระบุว่า พรรคประชาชาติ
ร้อยละ 1.97 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์
ร้อยละ 2.16 ระบุว่า อื่น ๆ ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ
ร้อยละ 5.99 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านการส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไปของคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากกรณีคดีตากใบที่หมดอายุความ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.55 ระบุว่า ไม่ส่งผลเลย รองลงมา ร้อยละ 25.21 ระบุว่า ส่งผลมาก ร้อยละ 23.62 ระบุว่า ค่อนข้างส่งผล และร้อยละ 11.62 ระบุว่า ไม่ค่อยส่งผล
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่คน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า ตัวอย่าง
ร้อยละ 50.14 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้
ร้อยละ 18.85 ระบุว่า พรรคประชาชน
ร้อยละ 13.68 ระบุว่า พรรคประชาชาติ
ร้อยละ 5.44 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์
ร้อยละ 4.69 ระบุว่า พรรคเพื่อไทย
ร้อยละ 2.62 ระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ
ร้อยละ 1.78 ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย ในสัดส่วนที่เท่ากัน
ร้อยละ 0.65 ระบุว่า อื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเสรีรวมไทย พรรคความหวังใหม่
ร้อยละ 0.37 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างทั้งหมดมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในภาคใต้ ซึ่งร้อยละ 39.08 มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 34.02 จังหวัดปัตตานี และร้อยละ 26.90 จังหวัดยะลา ตัวอย่าง ร้อยละ 48.45 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.55 เป็นเพศหญิง
ตัวอย่าง ร้อยละ 15.37 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 23.15 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 19.49 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 22.59 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 19.40 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 37.68 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 62.13 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.19 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ
ตัวอย่าง ร้อยละ 32.24 สถานภาพโสด ร้อยละ 65.70 สมรส และร้อยละ 2.06 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 1.50 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 16.68 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 37.30 จบการศึกษามัธยมศึกษา หรือเทียบเท่า ร้อยละ 8.25 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 31.40 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.87 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
ตัวอย่าง ร้อยละ 17.53 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 9.65 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 19.78 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 9.09 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 19.68 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.12 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.15 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
ตัวอย่าง ร้อยละ 19.40 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 4.12 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 18.84 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 31.88 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 8.06 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 4.59 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 1.59 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 0.84 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.19 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท ร้อยละ 0.09 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ร้อยละ 0.28 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 10.12 ไม่ระบุรายได้