ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สุเทพ สุขทอง' อดีตผอ.ร.ร.บ้านโพนทอง สพป.นครสวรรค์ เขต 3 ทุจริตค่าอาหารกลางวันนักเรียน ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษ จำคุก 250 รับสารภาพลดเหลือ 150 ปี 200 เดือน แต่ติดจริงไม่เกิน 50 ปี - พวก 1 ราย เสียชีวิตจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสุเทพ สุขทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโพนทอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครสวรรค์ เขต 3 กับ พวก คือ นายวิสุทธิ์ พวงจำปี ทุจริตค่าอาหารกลางวันนักเรียน โดยเบิกจ่ายเงินค่าอาหารนักเรียนคนละ 20 บาท แต่จ่ายค่าจ้างประกอบอาหารให้ผู้รับจ้างในอัตรานักเรียนคนละ 14 บาท ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 151, 157, 162 (4) พ.ร.ป. ป.ป.ช. 2542 มาตรา 12 (3/1) ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช. 2561 มาตรา 172 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษา ดังนี้
1. นายสุเทพ สุขทอง จำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 (เดิม), 151 (เดิม), 162 (4) (เดิม) พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 12 (3/1) ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 151 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักสุด จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 50 กระทง รวมจำคุก 250 ปี
จำเลยให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสามจำคุก 150 ปี 200 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ให้จำเลยที่ 1 คืน หรือชดใช้เงินแก่เทศบาลเมืองตาคลี จำนวน 596 ,028 บาท
2. นายวิสุทธิ์ พวงจำปี จำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตายระหว่างพิจารณาคดีของศาล จึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6
อย่างไรก็ดี คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
อ่านประกอบ :