ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน 'เศรษฐา ทวีสิน' หลังนั่งนายกฯ คนที่ 30 มีทรัพย์สินกว่า 1,020 ล. เงินฝาก 68 ล. ที่ดิน 158 ล. มีนาฬิกา 31 เรือน-หีบหลุยส์วิตตองXสุพรีม รายได้ 253 ล./ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ นายเศรษฐา ทวีสิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566
โดย นายเศรษฐา พร้อมด้วย นางพักตร์พิไล ทวีสิน คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,020,468,727 บาท หนี้สิน 10,182,549 บาท
นายเศรษฐา แจ้งมีทรัพย์สิน 659,391,610 บาท ประกอบด้วย เงินสด 1,000,000 บาท เงินฝาก 68,986,558 บาท ทั้งหมด 47 บัญชี
เงินลงทุน 6 รายการ 1,301,668 บาท อาทิ ธนาคารกสิกรไทย - กองทุนเปิดเค และบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ที่ดิน 1 แปลง 158,400,000 บาท ในเขตพระโขนง กรุงเทพฯ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 รายการ 156,423,120 บาท เป็น 1 ห้องชุด ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และบ้าน 3 ชั้นในเขตคลองเตย กรุงเทพฯ
ยานพาหนะ 50,000,000 บาท เป็นรถยนต์ 1 คัน ยีห้อ Aston Martin รุ่น DB5 สิทธิและสัมปทาน 87,539,563 บาท เป็นสมาคมกรีฑาสโมสร สมาชิกสามัญ และกรมธรรม์ประกันชีวิต
และทรัพย์สินอื่น 135,740,700 บาท เช่น นาฬิกา 38 เรือน มูลค่า 127,953,100 บาท หีบหลุยส์วิตตองXสุพรีม มูลค่า 6,000,000 บาท พระเครื่อง-ตะกรุด 6 องค์ มูลค่า 1,622,600 บาท และสร้อยคอทองคำ 1 เส้น 165,000 บาท
หนี้สิน 9,732,579 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี
ส่วน นางพักตร์พิไล คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สิน 361,077,116 บาท ประกอบด้วย เงินสด 1,800,000 บาท เงินฝาก 47,023,391 บาท ทั้งหมด 38 บัญชี
เงินลงทุน 27 รายการ 52,352,913 บาท โดยเงินลงทุนมากที่สุดใน BrookField Strategic Real Estate Partners Iv-C L.P. 5,535,514 บาท ยานพาหนะ 2,800,000 บาท เป็นรถยนต์ 3 คัน ยีห้อ Toyota, FLAT, และ Teala
สิทธิและสัมปทาน 845,511 บาท เป็นสมาคมกรีฑาสโมสร สมาชิกสามัญ และกรมธรรม์ประกันชีวิต
และทรัพย์สินอื่น 256,255,300 บาท นาฬิกา 31 เรือน มูลค่า 84,869,300 บาท กระเป๋า 48 ใบ มูลค่า 37,010,500 บาท ชุดสร้อยเพชร, ไข่มุก, กำไลตะปูฝังเพชร 31 ชุด มูลค่า 52,317,000 บาท ชุดแหวนเพชร,ไพลิน,ทับทิม,มรกต 37 ชุด มูลค่า 46,872,900 บาท ชุดต่างหูเพชร,ทับทิม,มรกต, ไข่มุข, ต่างหูหนีบ 58 ชุด มูลค่า 31,865,600 บาท เป็นต้น
หนี้สิน 449,970 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี
ทั้งนี้ นายเศรษฐา แจ้งมีรายได้ต่อปี 253,636,771 บาท เป็นเงินเดือนค่าจ้างและโบนัส 153,570,160 บาท เงินบำนาญชราภาพ 45,694 บาท เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 185,000 บาท ดอกเบี้ย 13 บาท เงินได้จากการขายกองทุน LTF 464,770 บาท ส่วนแบ่งกำไรจากกองทุน LTF และ RMF 12,069 บาท ผลประโยชน์จากการถือครอง-สินทรัพย์ดิจิทัล 825,402 บาท เงินที่ได้จากสิ้นสุดสมาชิกภาพในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 65,200,328 บาท บุตรให้รายปี 20,000,000 บาท และเงินชดเชยเกษียณอายุ 13,333,333 บาท รายจ่ายต่อปี 51,630,957 บาท
ส่วน นางพักตร์พิไล แจ้งมีรายได้ต่อปี 3,215,173 บาท เป็นช เงินบำนาญชราภาพ 56,550 บาท เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 632,011 บาท เงินจากวิชาชีพอิสระ (แพทย์) 2,019,930 บาท ดอกเบี้ย 97,767 บาท เงินได้จากการขายกองทุน LTF 343,929 บาท และส่วนแบ่งกำไรจากกองทุน LTF และ RMF 64,985 บาท รายจ่ายต่อปี 20,675,200 บาท
นายเศรษฐา แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 72,865,237 บาท
นางพักตร์พิไล แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 2,407,478 บาท