"...นาย ว.กับพวกเดินทางเข้าพบจําเลยที่ห้องทํางานบริเวณชั้น 2 สํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 (หาดใหญ่) มีการบันทึกเสียงไว้เป็นเวลา 27.06 นาที เป็นการหารือถึงหลักการโดยทั่วไปในการขอรับงานจากโครงการโดยมีนาย ว. เป็นผู้ทําหน้าที่ในการเจรจากับจําเลย จําเลยแจ้งว่าในหลักการจะต้องจ่าย 30-35% ในวันลงนามสัญญา แต่กําลังต่อรองกับข้างบนว่าจะให้เหลือเพียง 32%..."
นายสามารถ ใจสมุทร จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 149
ลงโทษจำคุก 8 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 ปี ไม่รอการลงโทษ
คือ บทสรุปคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2566 ที่ตัดสินลงโทษในคดีกล่าวหา นายสามารถ ใจสมุทร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 เรียกรับเงินจากผู้ประสงค์จะรับงานตามโครงการของสำนกังานทรัพยากรน้ำภาค 8 จำนวน 4 โครงการ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา 149 และ 157
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
- ไม่รอลงอาญา! คุก 4 ปี อดีตผอ.ทรัพยากรน้ำภาค 8 เรียกรับเงินเอกชน 4 โครงการ
- คลิปเสียงมัด! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตผอ.ทรัพยากรน้ำภาค8 ปิดห้องทำงานเรียกเงิน-รวยผิดปกติร้อยล.
ต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดฉบับเต็มเกี่ยวกับพฤติการณ์การกระทำความผิด นายสามารถ ใจสมุทร ที่ปรากฏอยู่ในคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ข้างต้น
***********
ตำแหน่ง-อำนาจหน้าที่
โจทก์ฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุจําเลยดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 และเจ้าพนักงานตามกฎหมาย โดยหัวหน้าส่วนราชการมีอํานาจหน้าที่ในการสั่งซื้อหรือสั่งจ้าง และหากเป็นการสั่งซื้อหรือสั่งจ้างโดยวิธีพิเศษครั้งหนึ่งภายในวงเงินไม่เกิน 25,000,000 บาท การสั่งซื้อหรือสั่งจ้างดังกล่าวเป็นอํานาจของจําเลย
ทั้งนี้ ตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และคําสั่งของทางราชการ ในปีงบประมาณ 2554 สํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณจากกรมทรัพยากรน้ำจัดทําโครงการเพื่อปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำในพื้นที่รับผิดชอบวงเงิน 702,000,000 ล้านบาทเศษ (ที่ถูก 702,000,000 บาทเศษ)
แบ่งเป็นเขตพื้นที่เฉพาะกิจ คือ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อําเภอในจังหวัดสงขลา (เทพา สะบ้าย้อย นาทวี จะนะ) วงเงิน 630,000,000 ล้านบาทเศษ (ที่ถูก 630,000,000 บาทเศษ) และในเขตพื้นที่รับผิดชอบอีก 5 จังหวัด คือ จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล และสงขลา วงเงิน 74,000,000 บาทเศษ
เปิดพฤติการณ์เรียกรับเงิน 4 โครงการ
สําหรับโครงการที่กล่าวหาว่าจําเลยมีพฤติการณ์เรียกรับเงิน 4 โครงการในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา ยะลา และนราธิวาส ได้แก่ (1) โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ป้องกันการกัดเซาะ) ตําบลอาซ่อง อําเภอรามัน จังหวัดยะลา (2) โครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำตําบลช้างเผือก อําเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส (3) โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำกะลุวอเหนือ อําเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส และ (4) โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำบ้านเทพา อําเภอเทพา จังหวัดสงขลา
โครงการทั้ง 4 โครงการ เป็นโครงการจัดจ้างของสํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 ซึ่งดําเนินการจัดจ้างในปี 2554 อยู่ในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของสํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 ที่จําเลยเป็นผู้อํานวยการ
โครงการทั้ง 4 โครงการดังกล่าวใช้วิธีการดําเนินการโดยการจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษได้
ดังนั้น จําเลยจึงเป็นผู้มีอํานาจคัดเลือกผู้รับจ้างด้วยตนเอง และหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้รับจ้างเป็นดุลพินิจของจําเลย เนื่องจากตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ไม่ได้กําหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกไว้แต่อย่างใด
อาศัยโอกาสที่มีอํานาจหน้าที่
เมื่อระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2554 เวลากลางวัน ต่อเนื่องกัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จําเลยเป็นเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐอาศัยโอกาสที่ตนมีอํานาจและหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษดังกล่าวข้างต้น ปฏิบัติหน้าที่เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบจากนาย ว. (ตัวย่อ) กับพวกเพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่ง หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ระเบียบ และคําสั่งของทางราชการโดยทุจริต
กล่าวคือ ในเดือนมีนาคม 2554 วันเวลาใด ไม่ปรากฏชัด นาย ว. (ตัวย่อ) ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างในนามห้างหุ้นส่วนจํากัด ฮ. ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตําบลสะเตงนอก อําเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา นาย อ. (ตัวย่อ) สมาชิกสภาจังหวัดยะลา ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างในนามห้างหุ้นส่วนจํากัด ฮ. และนาย ต. (ตัวย่อ) รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลตะมะยูง อําเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างด้วย เดินทางเข้าพบจําเลยที่ห้องทํางานบริเวณชั้น 2 สํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 (หาดใหญ่) เพื่อเจรจาขอรับงานโครงการต่าง ๆ ในเขตพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และสี่อําเภอของจังหวัดสงขลาจากจําเลย โดยเข้าใจว่าเป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่รัฐบาลให้อํานาจหัวหน้าหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นผู้มีอํานาจเด็ดขาดในการอนุมัติจัดจ้างโครงการต่าง ๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบโดยไม่ต้องมีการประกวดราคาและสอบราคา
โดยนาย ว. (ตัวย่อ) กับพวกเดินทางไปพบจําเลยที่ห้องทํางานของจําเลยหลายครั้ง
ในระหว่างการสนทนานาย ว. (ตัวย่อ) กับพวกบันทึกเสียงไว้ทุกครั้ง
อ้างต่อรองข้างบน ลดเหลือ 32%
สรุปได้ว่าตามเทปบันทึกเสียงครั้งที่ 1 นาย ว.กับพวกเดินทางเข้าพบจําเลยที่ห้องทํางานบริเวณชั้น 2 สํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 (หาดใหญ่) มีการบันทึกเสียงไว้เป็นเวลา 27.06 นาที เป็นการหารือถึงหลักการโดยทั่วไปในการขอรับงานจากโครงการ
โดยมีนาย ว. เป็นผู้ทําหน้าที่ในการเจรจากับจําเลย จําเลยแจ้งว่าในหลักการจะต้องจ่าย 30-35% ในวันลงนามสัญญา แต่กําลังต่อรองกับข้างบนว่าจะให้เหลือเพียง 32%
ในเบื้องต้น จําเลย แจ้งให้นาย อ. ได้งานที่โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำตําบลอาซ่อง อําเภอรามัน จังหวัดยะลา จําเลยสอบถามนาย อ. ว่ามีเงินที่จะต้องไปจ่ายจํานวนเท่าไหร่ และแจ้งว่าตามหลักเกณฑ์จะต้องจ่ายวันลงนามสัญญา
ตามเทปบันทึกเสียงครั้งที่ 2 นายว. และนาย อ. เดินทางเข้าพบจําเลยที่ห้องทํางานบริเวณชั้น 2 สํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 (หาดใหญ่) มีการบันทึกเสียงขณะที่มีการสนทนาเป็นเวลา 25.34 นาที
สําหรับการเจรจาในครั้งนี้ยังไม่ได้มีข้อตกลงชัดเจนและไม่มีข้อมูลตัวเลขที่จะต้องจ่ายเงินเพื่อแลกกับการลงนามสัญญาในโครงการว่าจํานวนเท่าไหร่
โดยจําเลยแจ้งว่าให้รอฟังคําตอบอีกครั้งหนึ่ง
อุปโลกน์ฝ่ายการเมืองช่วยเจรจา
ตามเทปบันทึกเสียงครั้งที่ 3 นาย ว. และนาย อ. เดินทางเข้าพบจําเลยที่ห้องทํางานบริเวณชั้น 2 สํานักงานทรัพยากรนน้ำภาค 4(หาดใหญ่) มีการบันทึกเสียงเป็นเวลา 48.03 นาที
การพบปะเจรจาในครั้งนี้จําเลยได้แนะนํา นาย พ. (ตัวย่อ) จําเลยอ้างว่าเป็นผู้แทนฝ่ายการเมืองเข้ามาร่วมหารือด้วย ซึ่งนาย พ. ได้รับการร้องขอจากจําเลยให้แสดงตัวว่าเป็นผู้แทนฝ่ายการเมืองเพื่อให้เกิดความสมจริงและน่าเชื่อถือ และจําเลยแจ้งต่อนาย ว. นาย อ. และนาย ต. ว่ามีการพูดคุยถึงเรื่องข้างบน มีนโยบายถ่ายทอดลงมาแล้ว ทั้งหมดอยู่ที่ตัวเงินว่าพร้อมที่จะรับเงื่อนไขเรื่องเงินหรือไม่ และสนใจ โครงการที่อาซ่องหรือไม่ (โครงการที่ 1 โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ป้องกันการกัดเซาะ) ตําบลอาซ่อง อําเภอรามัน จังหวัดยะลา) และมีการพูดว่าในวันลงนามสัญญานั้นจะต้องจ่าย 30% มีเงินจ่ายหรือไม่ ซึ่งนาย ว. ได้คํานวณตัวเลขคร่าว ๆ ประมาณ 3,000,000 บาท
นาย พ. ที่อยู่ในวงสนทนาชมนาย ว. ว่าคํานวณเก่ง ในการเจรจาครั้งนี้มีนาย ว. เป็นผู้เจรจาหลักกับจําเลย ส่วนนาย อ. นั่งฟังการเจรจาบนโซฟาในห้องทํางานจําเลยใกล้กับนาย ว. ได้ยินเสียงสนทนาและเห็นพฤติการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจน
โดยจําเลยกับนาย พ. ยินดีที่จะสนับสนุนให้ห้างหุ้นส่วนจํากัด ฮ. ได้งาน 4 โครงการ ประกอบด้วย (1) โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำตําบลช้างเผือก (2) โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำกะลุวอเหนือ (3) โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำบ้านเทพา และ (4) โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำตําบลอาซ่อง ทั้ง 4 โครงการ มียอดเงินรวม 35,000,000 บาท
จําเลยแจ้งว่ามีตัวเลขจากข้างบนออกมาชัดเจนแล้วต้องจ่าย 32% วันลงนามสัญญาต้องจ่าย 30% ส่วนที่เหลืออีก 2% ให้จ่ายภายหลัง ซึ่งหากรวมโครงการที่ห้างหุ้นส่วนจํากัด ฮ. จะได้รับทั้ง 4 โครงการ มียอดรวมประมาณ 30,000,000 บาท จะต้องเตรียมจ่ายประมาณ 11,000,000 บาท
เขียนกระดาษโน้ต 3 แผ่น
จากนั้นจําเลยจึงได้เขียนโครงการที่ตกลงให้งานแก่ห้างหุ้นส่วนจํากัด ฮ. ทั้ง 4 โครงการ ลงในกระดาษโน้ตสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็ก ๆ สีเหลือง 3 แผ่น
โดยเขียนชื่อโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ 4 โครงการ พร้อมจํานวนเงินแต่ละโครงการ
ตามเทปบันทึกเสียงครั้งที่ 4 นาย อ. และนาย ต. เดินทางเข้าพบจําเลยที่ห้องทํางานบริเวณชั้น 2 สํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 (หาดใหญ่) มีการบันทึกเสียงไว้เป็นเวลา 45.24 นาที
เมื่อนาย อ. และนาย ต. ไปถึงห้องทํางานของจําเลย พบจําเลยกับนาย พ. ที่จําเลยอ้างว่าเป็นผู้แทนฝ่ายการเมืองเข้ามาร่วมหารือด้วย
ในการเจรจาครั้งนี้นาย อ. นําเอกสารเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจํากัด ฮ. ไปมอบให้แก่จําเลยตามที่มีการแจ้งไว้ก่อนหน้านี้
จําเลยแจ้งว่าที่มีการหารือก่อนหน้านี้ที่จะให้งาน 4 โครงการนั้น เนื่องจากมีเจ้าของพื้นที่จองโครงการต่าง ๆ ไว้แล้ว จึงมีปัญหากับเจ้าของพื้นที่หากจะมอบโครงการตามที่พูดคุยทั้งหมดให้แก่ห้างหุ้นส่วนจํากัด ฮ. จะต้องไปพูดคุยกับเจ้าของพื้นที่โดยตรง
แต่สําหรับโครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำตําบลอาซ่องนั้นจะให้ห้างหุ้นส่วนจํากัด ฮ อย่างแน่นอน พร้อมให้นาย อ. เตรียมเงินที่จะต้องจ่ายค่าเปอร์เซ็นต์ 32% และเมื่อนาย อ. ต่อรองเรื่องการจ่ายเปอร์เซ็นต์ดังกล่าว จําเลยแจ้งว่าเฉพาะโครงการนี้สามารถลดได้คงเหลือ 30% จ่ายในวันที่ลงนามสัญญา 25% ที่เหลืออีก 5% จ่ายตอนเบิกงวด
ปรากฏว่า นาย ว. นาย อ. และนาย ต. ไม่ได้เข้าทําสัญญาในนามห้างหุ้นส่วนจํากัด ฮ. กับสํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 ทั้ง 4 โครงการ จําเลยเรียกรับเงินจากนาย ว. นาย อ. และ นาย ต. เพื่อแลกกับการเข้าทําสัญญาเป็นผู้รับจ้างโครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำของสํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 8
แม้จําเลยจะไม่ได้รับเงินที่เรียกและผู้ถูกเรียกจะไม่ได้รับงานตามโครงการที่อ้าง
การกระทําของจําเลยก็เป็นการทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสําหรับตนเองหรือผู้อื่นเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินสําหรับตนเองโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่ง
จําเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานเรียกทรัพย์สิน (เงินค่าเปอร์เซ็นต์) สําหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อกระทําการจัดซื้อจัดจ้างโครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำ รวม 4 โครงการ เป็นเงินค่าจ้าง 30,000,000 บาท ตามอํานาจหน้าที่ รวมเป็นเงินประมาณ 11,000,000 บาท ทําให้เสียหายแก่ทางราชการ สํานักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บุคคอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชน เหตุเกิดที่ตําบลควนลัง อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90, 149, 157
จําเลยให้การปฏิเสธ แต่ก่อนไต่สวนพยาน จําเลยขอถอนคําให้การเดิมและให้การใหม่เป็นรับสารภาพ
***********
หมายเหตุ ข้อมูลคำพิพากษาคดีนี้ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ยังไม่จบ ยังมีข้อมูลในส่วนคำพิพากษาศาลฯ และคำรับสารภาพของจำเลยอีก
รายละเอียดเป็นอย่างไร ติดตามตอนต่อไป