เกาะติด! ปฏิบัติการ ป.ป.ช.ตรัง ไล่บี้ ทช. ตรวจเอกสารโครงการก่อสร้างถนนรอบเกาะมุก งบผู้ว่าฯ อนุมัติ 21 ล้าน 4 เดือนพัง พบข้อมูลผู้รับเหมารายเดียวยื่นซองประมูลก่อนคว้างาน
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก โครงการปรับปรุงเส้นทางเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวรอบเกาะมุก ขนาดผิวทางกว้าง 3-4 เมตร ระยะทางตลอดสาย 4.205 กิโลเมตร โดยมีจังหวัดตรัง เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ งบประมาณ จ.ตรัง จำนวน 21,510,000 บาท สร้างเสร็จ 4 เดือน พังชำรุดเสียหาย
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค.66 ที่บ้านเกาะมุก ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.ตรัง เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และเครือข่ายภาคประชาชน ได้เดินทางโดยการนั่งเรือลงพื้นที่ลงตรวจสอบถนนบนเกาะมุก หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าถนนที่มีการก่อสร้างโดยการวางอิฐตัวหนอน ตามโครงการปรับปรุงเส้นทางเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวรอบเกาะมุก ขนาดผิวทางกว้าง 3-4 เมตร ระยะทางตลอดสาย 4.205 กิโลเมตร โดยมีจังหวัดตรัง เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ งบประมาณ จ.ตรัง จำนวน 21,510,000 บาท อนุมัติโดยนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง โดยให้แขวงทางหลวงชนบทตรัง สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 14 (กระบี่) กรมทางหลวงชนบท เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง เอกชนผู้รับจ้าง คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โล่ทองการโยธา เป็นผู้เข้าดำเนินการก่อสร้าง โดยการประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ก่อสร้างแล้วเสร็จ ในช่วงเดือน เม.ย.66 หรือประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา
ปรากฏว่า ถนนกลับมีการชำรุดเสียหาย ชาวบ้านได้รับผลกระทบจำนวนหลายจุด และในภาพรวมของโครงการเกิดข้อคำถามว่าเป็นไปตามหลักวิศวกรรม หลักความคุ้มค่าหรือไม่
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวพิเศษสำนักข่าวอิศรา ลงพื้นที่ติดตามรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการฯ นี้ ของ ป.ป.ช.ตรัง ทราบว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 ที่แขวงทางหลวงชนบทตรัง ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.ตรัง ได้เดินทางเข้าพบ นางสาวชนิดา ฆังคะจิตร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทตรัง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการดูแลและรับผิดชอบโครงการดังกล่าว
นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง กล่าวภายหลังหารือร่วมกับแขวงทางหลวงชนบทตรัง ว่า ในส่วนของแขวงทางหลวงชนบทตรัง ที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการฯ จะทำหนังสือโดยด่วนไปยังผู้รับจ้างคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โล่ทองการโยธา เข้าดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง ให้เรียบร้อยตามรูปแบบรายงานการก่อสร้างให้โดยเร็ว เนื่องจากการก่อสร้างยังอยู่ในระยะเวลาประกัน หลังจากนี้ทาง ป.ป.ช.ก็จะดำเนินการติดตามต่อเนื่อง ว่ามีการแก้ไขแล้วเสร็จให้ครบถ้วนและเรียบร้อยหรือไม่
"ในวันนี้ได้มาสร้างความเข้าใจกับทางผู้รับผิดชอบโครงการ และในอีกส่วนได้มาขอดูข้อมูลว่าโครงการนี้ได้ดำเนินการไปอย่างไร และมีหลักฐานใดบ้าง เบื้องต้นทาง ผอ.แขวงทางหลวงชนบทตรัง ได้ให้เหตุผลในสาเหตุที่ถนนมีการชำรุดและทรุดนั้น เกิดจากฝนตก มีน้ำกัดเซาะทรายที่อยู่ด้านล่าง ทำให้ทรายหลุดออกไปทำให้ตัวหนอนทรุดลงบางส่วน ส่วนป้ายโครงการที่ไม่มีการติดตั้งนั้น ได้รับคำตอบว่าติดตั้งแล้ว แต่น่าจะเกิดปัญหาจากลมพายุพัดจนชำรุดเสียหาย จึงไม่ได้ปรากฏเป็นป้านให้เห็นเด่นชัด" นายบัณฑิต ระบุ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวชนิดา ฆังคะจิตร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทตรัง ได้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ เพียงแค่แจ้งว่าจะเร่งทำหนังสือไปยังผู้รับเหมาให้เข้ามาแก้ไขโดยด่วน
ขณะที่ แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. ตรัง เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า จากการตรวจสอบข้อมูลด้านเอกสารโครงการฯ นี้ ป.ป.ช. พบว่า มีผู้ยื่นซองประมูลเพียงรายเดียว คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โล่ทองการโยธา และได้เข้าไปดำเนินการก่อสร้าง
"หลังจากนี้ทาง ป.ป.ช.ตรัง จะไล่ตรวจสอบเอกสารข้อมูลของโครงการทั้งหมด รวมไปถึงที่มาที่ไป ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการหรือไม่ และในประเด็นของการตรวจรับงาน ว่ามีการตรวจรับโดยมิชอบหรือไม่อย่างไร ถึงแม้ว่าการก่อสร้างที่มีการชำรุดจะอยู่ในระยะเวลาของประกันสัญญา แต่ได้มีการตรวจรับงานและเบิกจ่ายงบประมาณจำนวน 21 ล้านบาทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. ตรังระบุ
สำหรับข้อมูล ห้างหุ้นส่วนจำกัด โล่ทองการโยธา นั้น ในฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า หจก.โล่ทองการโยธา ยังดำเนินธุรกิจอยู่ จดทะเบียนจัดตั้ง 9 ก.ย. 2535 ทุนปัจจุบัน 50,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 16 หมู่ 1 ตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง แจ้งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ปรากฏชื่อ นาย กิจจ์ธนากร มงคลคูณเศรษฐ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และผู้ถือหุ้นใหญ่
ปัจจุบัน ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการสรุปผลการตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแต่อย่างใด ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป