เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สมนึก แม้นจิตต์' อดีตนายก อบต.นครชุมน์ ราชบุรี นำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ส่วนตัว ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท ได้รอลงอาญา - ป.ป.ช.ขออสส.อุทธรณ์สู้ต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสมนึก แม้นจิตต์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี นำรถยนต์ส่วนกลาง คันหมายเลขทะเบียน กธ 5487 ราชบุรี ของ อบต.นครชุมน์ ไปใช้ส่วนตัว ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ. มาตรา 151 , 157 และ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาว่า นายสมนึก แม้นจิตต์ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 151 (เดิม) พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ หรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามมาตรา 151 (เดิม) อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90
จำคุก 5 ปี และปรับ 40,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่ง
คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท
พิเคราะห์พฤติการณ์การกระทำความผิดและรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยดำรงตำแหน่งนายก อบต.นครชุมน์เป็นระยะเวลาประมาณ 8 ปี ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่เคยมีประวัติการกระทำาความผิด นับว่ามีคุณงามความดีมาก่อน จำเลยกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ภายหลังจำเลยสำนึกในการกระทำความผิดชดใช้เงินค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 57,795.12 บาท ให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลนครชุมน์ผู้เสียหายแล้ว
ปัจจุบันจำเลยมีภาระดูแลบุตรที่กำลังศึกษาและครอบครัวตามพฤติการณ์แห่งคดีเป็นการกระทำความผิดไม่ได้ร้ายแรงมากนัก และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีน่าจะเป็นประโยชน์แก่จำเลยและสังคมมากกว่าจำเลยต้องโทษจำคุก
จึงเห็นสมควรให้รอการโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี คุมความประพฤติจำเลยมีกำหนด 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง และให้จำเลยทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร 12 ชั่วโมง ตามมาตรา 56 หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29, 30
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ได้พิจารณาแล้วไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดจะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 และเห็นควรอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
เกี่ยวกับคดีเจ้าหน้าที่รัฐประพฤติมิชอบ นำรถยนต์ราชการ หรือ รถหลวง ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว นั้น สำนักข่าวอิศรา เคยรายงานไปแล้ว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดผู้กระทำความผิดไปแล้วหลายราย นับตั้งแต่ปี 2556 - 2566 รวมระยะเวลา 10 ปี มีข้อมูลว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิดในคดีรถหลวง ไปแล้วว่า 70 คดี รวมจำนวนผู้ถูกกล่าวหากว่า 200 ราย
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- คดีทุจริตเงินทอนวัด! อดีตผอ.ส่วนพัฒนาบูรณะฯ โดนคุกอีก 9 ปี 18 ด.-คืนเงิน 8.7 ล.
- คุกคนละ 5 ปี! อดีตสรรพากรสมุทรปราการ 3 บางพลี-พวก ทุจริตเรียกเงินค่าขอคืนภาษี
- คดีที่สอง! คุกอีก 2 ปี อดีตปลัดเทศฯ บ่อพลอย ทุจริตออกใบ ภ.บ.ท.5 หลอกขายผู้อื่น
- แบ่งจ้างงานถนน 8 ช่วง! คุก 1 ปี อดีตนายกเทศฯ นิคมคำสร้อย - นับโทษต่อคดีเก่าด้วย
- ตัดสินแล้ว! คุกคนละ 37 ปี 148 ด. 'วงศ์ศักดิ์-พวก' เรียกเงินบรรจุ พนง.ราชบุรี
- เหลือคุก 3 ปี 4 ด.! แก้โทษ อดีตผอ.สำนักจัดการป่าไม้ กระบี่ เอื้อปย.ปลูกป่า 200 ไร่
- คดีล่าสุด! เงินทอนวัดพิชยญาฯ 'พนม ศรศิลป์-พวก' โดนคุกคนละ13 ปี 6 ด.-ชดใช้17 ล.
- คุกคนละ 5 ปี! อดีตผอ.เขตคลองสาน กทม.- พวก เรียกสินบนจ้างจัดสัมมนาดูงาน