"...คดีนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่ผมดำรงตำแหน่ง เมื่อปี 2553 -2555 เกิดขึ้นก่อนที่จะมีกฎหมายใหม่ เรื่องการสั่งให้พ้นตำแหน่งออกมา จึงยังสามารถอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ และศาลก็ยังไม่มีคำสั่งเรื่องการให้พ้นจากตำแหน่งออกมาแต่อย่างใด"
ลงโทษ นายสมชาย ยิ้มใหญ่หลวง จำเลยที่ 1 รวมจำคุก 53 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี
ลงโทษ นายชนก ธนะรัตน์ จำเลยที่ 2 รวมจำคุก 205 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี
ลงโทษ นางสาวธมลวรรณ หรือทศนพร จันทร์หอม จำเลยที่ 3 รวมจำคุก 45 ปี
ส่วนพวกที่เหลืออีก 9 ราย โดนโทษจำคุกเฉลี่ยตั้งแต่ 1 ปี ไปจนถึง 10 ปี แต่ได้รอลงอาญา เนื่องจากไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน
คือ บทสรุปคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่ตัดสินคดีกล่าวหา นายสมชาย ยิ้มใหญ่หลวง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี กับพวกอีก 11 ราย คือ นายชนก ธนะรัตน์ ปลัดอบต. ฯ นางสาวธมลวรรณ หรือทศนพร จันทร์หอม ผู้อำนวยการกองคลัง อบต.ฯ นางสาวอาพร ขนาดกลาง นายชูชัย รักสาทรสิทธิ นายชาญนนท์ หงษ์ทอง นางสาวสุธิสา ลิ้มกลั่นดี นางสาวสุวิมล หรือวิมล ตันสุวรรณ นางสาววราภรณ์ กุญชร นายภราดร ช่อสะอึก นางสาวธัญญรัตน์ จำปากุล นางสาวลาวรรณ์ ป่าแฝก
กรณีใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์จากโครงการเงินกู้เพื่อเป็นสวัสดิการสำหรับบุคลากรภาครัฐให้ได้รับการคิดดอกเบี้ยตามสัญญากู้เงินในอัตราที่ต่ำกว่าปกติเข้ามีส่วนได้เสียโดยการจัดหาพัสดุมาขายและเข้ามาเป็นผู้รับจ้างกับองค์การบริหารส่วนตำบลหนองรี และทุจริตการเบิกค่าอาหารสำหรับเลี้ยงผู้สูงอายุระหว่าง ปีงบประมาณ 2553 -2555 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ อบต.หนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี พบว่า ปัจจุบัน นายสมชาย ยิ้มใหญ่หลวง ยังคงอยู่ในตำแหน่ง นายก อบต. หนองรี
เช่นเดียวกับ นายชนก ธนะรัตน์ ก็ยังอยู่ในตำแหน่ง ปลัด อบต.ฯ
ขณะที่ นางสาวธมลวรรณ หรือทศนพร จันทร์หอม ไม่พบว่ามีชื่ออยู่ในเว็บไซต์ อบต. หนองรี แล้ว
ส่วนจำเลยบางคน ก็ยังมีชื่อเป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่ อยู่ใน อบต. หนองรี อาทิ นางสาวสุธิสา ลิ้มกลั่นดี มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าสำนักปลัดรักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองคลัง (ดูภาพประกอบ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2566 ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายสมชาย ยิ้มใหญ่หลวง นายกอบต. หนองรี ตามเบอร์โทรฯ ที่แจ้งไว้ในเว็บไซต์ อบต.หนองรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีความดังกล่าว
นายสมชาย กล่าวยืนยันว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ในชั้นศาล คดียังไม่จบ
เมื่อถามว่า ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง นายกอบต. หนองรี หรือถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว หลังจากศาลฯ มีคำพิพากษาตัดสินคดีลงโทษจำคุก รวมถึงจำเลยคนอื่นๆ ด้วย
นายสมชาย ตอบว่า ยังอยู่ในตำแหน่งตามเดิม เนื่องจากคดีนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการต่อสู้ในชั้นศาล อยู่ในชั้นอุทธรณ์ ยังไม่ถึงชั้นฎีกา ตัดสินชี้ขาด เหมือนกรณีอดีตรัฐมนตรีรายหนึ่ง ที่ถูกชี้มูลความผิด
"คดีนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่ผมดำรงตำแหน่ง เมื่อปี 2553 -2555 เกิดขึ้นก่อนที่จะมีกฎหมายใหม่ เรื่องการสั่งให้พ้นตำแหน่งออกมา จึงยังสามารถอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ และศาลก็ยังไม่มีคำสั่งเรื่องการให้พ้นจากตำแหน่งออกมาแต่อย่างใด"
@ สมชาย ยิ้มใหญ่หลวง
ส่วนที่มาที่ไปคดีนี้ นั้น นายสมชาย ชี้แจงว่า ปัญหาเกิดจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งใน อบต. หนองรี ไปจดทะเบียนร้านค้าพาณิชย์ และเข้ามาเป็นคู่สัญญาขายของให้กับ อบต. หนองรี ซึ่งตนไม่ทราบเรื่องอะไรด้วย
"ของที่มีการจัดซื้อมาครบถ้วนถูกต้องทั้งหมด แต่ผมไม่ทราบเรื่องที่เขาไปจดทะเบียนร้านค้าพาณิชย์ แล้วเอาของมาขายให้กับอบต. ผมเกี่ยวข้องแค่ในขั้นตอนสุดท้ายที่มีการจัดทำเรื่องเสนอมาตามขั้นตอนเท่านั้น เมื่อเรื่องเสนอมาถูกต้อง ผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนแล้ว ผมก็เซ็นอนุมัติให้ก็เท่านั้น"
เมื่อถามว่า ยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่อง การจดทะเบียนร้านค้าพาณิชย์ของเจ้าหน้าที่ อบต. หนองรี รายนี้ นายสมชาย ตอบว่า "ไม่ทราบเรื่องด้วยจริงๆ"
"ส่วนคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่ อบต.รายนี้ ที่ไปจดทะเบียนร้านค้าพาณิชย์ เท่าที่ทราบมีการอ้างว่า ติดขัดปัญหาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่อยากรับเช็คจาก อบต. เขาจึงต้องไปจดทะเบียนร้านค้าขึ้นมา เพื่อนำของมาขายให้กับ อบต."
"เท่าที่ทราบนอกจากที่ อบต. หนองรี แล้ว ช่วงก่อนหน้านี้ที่เขาไปรับตำแหน่งที่อื่น ก็ทำแบบนี้เหมือนกันในหลายที่"
ส่วนกรณีการเบิกค่าอาหารสำหรับเลี้ยงผู้สูงอายุ นั้น นายสมชาย กล่าวชี้แจงด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่การทำไม่ถูกขั้นตอนตามระเบียบ ซึ่งตนได้สั่งการให้มีการปรับปรุงแก้ไขไปหมดแล้ว
"ผมขอเรียนยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับผมด้วย" นายกอบต. หนองรี กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ นายชนก ธนะรัตน์ ปลัด อบต.ฯ นั้น ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์แล้วเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
อนึ่งเกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติเห็นชอบตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยที่ไม่ได้รอลงอาญา มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
ผลการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ จะออกมาเป็นอย่างไร ต้องรอติดตามดูกันต่อไป