ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'วีระชัย สิงหนิยม' อดีตคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ -พวก 2 ราย แอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยแสวงหาผลประโยชน์ ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ลดโทษเหลือจำคุกคนละ 4 ปี - คืนเงิน 1,249,539 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายวีระชัย สิงหนิยม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กับพวก 2 ราย คือ นางศรีลัดดา หรือสุภรัศมิ์ เงินสุทธิวรกุล และนายสุพจน์ บุญสิทธิ์ กรณีเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง "Mini Optometry" และแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยแสวงหาผลประโยชน์
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ. มาตรา 147 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จากที่ตัดสินว่า นายวีระชัย สิงหนิยม จำเลยที่ 1 นางศรีลัดดา หรือสุภรัศมิ์ เงินสุทธิวรกุล จำเลยที่ 2 นายสุพจน์ บุญสิทธิ์ จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 147 ประกอบมาตรา 83
จำคุกคนละ 6 ปี
ให้จำเลยทั้งสาม คืนเงินหรือใช้เงิน 1,249,539 บาท ให้แก่ผู้เสียหาย
แก้เป็นว่า ทางนำสืบของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้จำเลยทั้งสามคนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78
คงจำคุกคนละ 4 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท