เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สมนึก ศรีคง' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลนางั่ว เพชรบูรณ์ เปลี่ยนชื่อตนเองเป็นผู้รับเงินตามเช็คส่งเสริมการขายบริษัท คูโบต้า เพชรบูรณ์ จำกัด นำเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่ได้รอลงอาญา ปรับอีก 5,000 บาท หลังเจ้าตัวรับสารภาพ - ป.ป.ช. ค้าน อสส.ไม่อุทธรณ์สู้ต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสมนึก ศรีคง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลนางั่ว อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เปลี่ยนชื่อตนเองเป็นผู้รับเงินตามเช็คส่งเสริมการขายของบริษัท คูโบต้า เพชรบูรณ์ จำกัด นำเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ. 147 , 151 และ 157 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช.พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2544 มาตรา 123/1 ประกอบพ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และตาม พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 73 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาว่า นายสมนึก ศรีคง จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 147 , 151 , 157 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามมาตรา 147 ตาม มาตรา 90
จำคุก 5 ปี และปรับ 10,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง
คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 5,000 บาท ตามมาตรา 78
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 ลงมติไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ในส่วนที่รอการลงโทษ
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
ข่าวในหมวดเดียวกัน