บก.ปปป.วางแผนจับสด 'จุรีพร ขันตี' วัฒนธรรมจว.พระนครศรีอยุธยา ทุจริตเงิน 80,000 บาท จ้างจัดทิพย์พิธีกรรมบวงสรวงเทพยดา วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นเท็จ คนในแฉให้เจ้าหน้าที่ทำเอกสารเองหมด หลักฐานคาโต๊ะเพียบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2565 ร.ต.อ.เกียรติภูมิ ปภินวัช รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปปป. ได้มีการออกคําสั่งให้วางแผนใช้วิธีการจับกุมนางจุรีพร ขันตี ตําแหน่งวัฒนธรรมจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ขณะส่งมอบเงิน จํานวน 80,000 บาท เพื่อเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงและพิสูจน์เจตนาทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าว
โดย ร.ต.อ.เกียรติภูมิ ได้นําธนบัตรที่ได้จากการถอนเงินธนาคารไทยพาณิชย์ของ พยาน จํานวน 79,188 บาท(หักค่าภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว จํานวน 812 บาท) เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2565 เวลาประมาณ 14.45 น. มาลง ประจําวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ในการส่งมอบให้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จํานวน 74 ฉบับ ฉบับละ 100 บาท จํานวน 1 ฉบับ ฉบับละ 20 บาท เงินเหรียญ 5 บาท 1 เหรียญ เงินเหรียญ 1 บาท 3 เหรียญ
อนึ่ง คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก นาย ส. อาชีพ พนักงานราชการ ตําแหน่ง นักวิชาการประจําสํานักงานวัฒนธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มาพบ ร.ต.อ.ภูสิทธิ์ บุตรแสง พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์/กล่าวโทษ ให้ดําเนินคดีกับ นางจุรีพร ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
โดยพฤติการณ์ที่เป็นความผิดกล่าวคือ นางจุรีพร ใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่ อนุมัติให้จัดทําโครงการจัดพิธีกรรม ทางศาสนาพิธีบวงสรวงเทพยดาผู้รักษาเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ณ วัดใหญ่ชัยมงคล ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ซึ่งใช้เงินงบประมาณ ของสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในจํานวน 80,000 บาท โดย นางจุรีพร ขันตี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายงบประมาณ ทําเรื่อง สัญญาว่าจ้าง กับ นาง ม. ประกอบอาชีพ เปิดร้านค้าขายของชําและสินค้าทั่วไป ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นป้าของผู้แจ้ง เป็นผู้รับจ้างจัดงานโครงการดังกล่าว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 80,000 บาท แต่ไม่ได้มีการว่าจ้างกันจริง เนื่องจาก นาง ม. ผู้รับจ้างไม่ได้เป็นผู้จัดหาหรือจัดทําตามรายการใบเสนอราคาและใบสั่งจ้างของ สํานักงานวัฒนธรรมฯแต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่สํานักงานวัฒนธรรมฯเป็นผู้ทําเอกสารการว่าจ้างมาเองทั้งหมดให้นาง ม. ลงชื่ออย่างเดียว
เมื่อถึงวันที่ 6 ก.ย. 2565 เงินงบประมาณโครงการดังกล่าวเข้ามา 80,000 บาท นางจุรีพร จึงให้ เจ้าหน้าที่การเงินทําฎีกาเบิกเงิน โดยให้โอนเงินค่าจ้าง 80,000 บาทเข้าบัญชีธนาคารของ นาง ม. ผู้รับจ้าง ต่อมา นางจุรีพรได้สั่งการผ่าน นายพีรพล หรือปู ทองดี อายุประมาณ 28 ปี ตําแหน่งฝ่ายพิธีการ ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของนางจุรีพร โทรมาสั่งให้ผู้แจ้งไปบอกให้นาง ม.ทําการถอนเงินสดจํานวน 80,000 บาท ออกมา เพื่อจะนําไปมอบให้นางจุรีพร ในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 7 ก.ย. 2565 ซึ่งผู้แจ้งเห็นว่าพฤติกรรม ดังกล่าวเป็นการทุจริตเงินงบประมาณแผ่นดินไปโดยมิชอบ
ขณะที่ นางจุรีพรเคยมีพฤติกรรมทุจริตในลักษณะดังกล่าวหลายครั้งแล้ว เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ทําให้ผู้แจ้งและนาง ม.ซึ่งทราบถึงพฤติกรรมทุจริตดังกล่าว เกรงว่าตนเองจะมีความผิดไปด้วย จึงได้แจ้งเบาะแสให้กับทาง สํานักงาน ป.ป.ช. จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ทราบเรื่อง และจึงมาร้องทุกข์/กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป.เพื่อให้ดําเนินคดี กับ นางจุรีพรฯ ตามกฎหมายต่อไป
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า ร.ต.อ.ภูสิทธิ์ บุตรแสง รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปปป. ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจํา บก.ปปป. ได้พิจารณาพฤติการณ์ดังกล่าวแล้วเห็นว่า การกระทําของ นางจุรีพร ขันตี ตําแหน่ง วัฒนธรรมจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นความผิดฐาน 3 ฐานประกอบไปด้วย
1. เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทํา จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของ ผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสียตามกฎหมายอาญา มาตรา 147
2.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่ง ผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามตามกฎหมายอาญามาตรา 157
3. เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทํา จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อํานาจในตําแหน่งโดยทุจริต อันเป็น การเสียหายแก่รัฐตามกฎหมายอาญา มาตรา 151 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง