ป.ป.ช.เผยแพร่ผลคดีชี้มูลความผิด 'สุรัตน์ ปรีชาวัฒนชัย' อดีตผจก.ศูนย์บริการโทรศัพท์สาธารณะอุดรธานี ทีโอที แก้ไขข้อมูลการตรวจนับเหรียญแล้ว ยักยอกส่วนต่างไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้เรียงกระทงลงโทษ จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 1,820 ปี แต่ติดจริง 50 คืนเงิน 2,359,515 บาท หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง
....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสุรัตน์ ปรีชาวัฒนชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้จัดการศูนย์บริการโทรศัพท์สาธารณะอุดรธานี บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) แก้ไขข้อมูลการตรวจนับเหรียญแล้ว ยักยอกส่วนต่างไปเป็นประโยชน์ส่วนตน
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 และมาตรา 11 ประกอบ ป.อ.มาตรา 90 และ 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2559
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ว่า นายสุรัตน์ ปรีชาวัฒนชัย จำเลยมีความผิดตามมาตรา 4 และ มาตรา 11 จำเลยกระทำผิด 364 กระทง ให้เรียงกระทงลงโทษ
จำคุกกระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 1,820 ปี
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุก 50 ปี ตาม ป.อ.มาตรา 91 (3)
นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ให้จำเลย คืนเงิน 2,359,515 บาท
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage