"...ประเทศไทยนั้นกำลังประสบกับปัญหาผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 รายวันที่พุ่งสูงมาก เราต้องการวัคซีนจำนวนมากขึ้นเพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์การระบาดและเพื่อจะนำไปใช้รองรับกับเป้าหมายใหม่ในเรื่องการฉีดวัคซีนระดับชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของเราได้มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดหาวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านโดสต่อเดือนเพื่อจะใช้ฉีดให้กับกลุ่มประชาชนคนไทย ซึ่งในเรื่องนี้นั้นทำให้เราคาดหวังว่าเราจะได้รับวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้ามากกว่าหนึ่งในสามของที่จดหมายของคุณได้ระบุเอาไว้ หรือเราก็หวังว่าจะเราได้วัคซีนจำนวนอย่างน้อย 10 ล้านโดสต่อเดือนเอามาใช้ภายในประเทศไทย..."
...............................
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : เป็นรายละเอียดในหนังสือของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่แจ้งตอบกลับ นายสจอร์ด ฮับเบน รองประธานฝ่ายกิจการองค์กรทั่วโลก ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่ส่งให้สำนักข่าวอิศรา เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงในการเจรจาข้อตกลงจัดหาวัคซีนโควิด-19 เป็นจำนวน 10 ล้านโดสต่อเดือน หลังปรากฏข้อมูลว่าไทยแจ้งขอรับวัคซีนโควิดแอสตร้าเซนเนก้าในช่วงแรกเพียงแค่ 3 ล้านโดสต่อเดือน และเป็นการสั่งจองช้าที่สุดในอาเซียน
(อ่านประกอบ : เปิดจม.ลับ 'แอสตร้า’ อ้าง สธ.ไทยเคยแจ้งต้องการแค่เดือนละ3 ล.โดส เพิ่มให้เกือบ 2 เท่าแล้ว)
.....................................
อ้างอิงจากจดหมายของคุณ (นายสจอร์ด ฮับเบน) ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2564 อันเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในวงกว้างและเท่าเทียมกัน
ผมขอขอบคุณในบทบาทของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และความมุ่งมั่นในการที่จะดำเนินการผลิตวัคซีนตามนโยบายไม่แสวงหาผลกำไรและไม่ขาดทุน ซึ่งรวมไปถึงรายละเอียดการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังบริษัทผู้ผลิตวัคซีนในประเทศไทย
ด้วยความร่วมมืออันสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกันที่ประสบความสำเร็จระหว่างเรา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าได้นำไปสู่สถานการณ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายนั้นต่างได้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้
ความร่วมมือของเราจะอยู่ต่อไปตราบเท่าที่ผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าจะบรรลุข้อตกลงด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยนั้นกำลังประสบกับปัญหาผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 รายวันที่พุ่งสูงมาก เราต้องการวัคซีนจำนวนมากขึ้นเพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์การระบาดและเพื่อจะนำไปใช้รองรับกับเป้าหมายใหม่ในเรื่องการฉีดวัคซีนระดับชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของเราได้มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดหาวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านโดสต่อเดือนเพื่อจะใช้ฉีดให้กับกลุ่มประชาชนคนไทย
ซึ่งในเรื่องนี้นั้นทำให้เราคาดหวังว่าเราจะได้รับวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้ามากกว่าหนึ่งในสามของที่จดหมายของคุณได้ระบุเอาไว้ หรือเราก็หวังว่าจะเราได้วัคซีนจำนวนอย่างน้อย 10 ล้านโดสต่อเดือนเอามาใช้ภายในประเทศไทย
ดังนั้นเราจึงต้องมีการหารือร่วมกันในทิศทางที่สร้างสรรค์และจริงจังมากขึ้นเกี่ยวกับประเด็นเรื่องเหล่านี้ และมีความจำเป็นจะต้องหารืออย่างเร่งด่วนด้วยเช่นกัน
โดยผมได้มีการมอบหมายให้ทีมงานเล็ก ๆ อันประกอบด้วยเหล่าผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญอันได้แก่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ที่จัดการโครงการวัคซีนและเป็นคู่เทียบประสานงานทางกฎหมายของคุณ เพื่อที่จะดำเนินการหารือกับคุณหรือตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจของคุณเพื่อที่จะทำให้บรรลุการทำข้อตกลงที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้ประโยชน์และบรรลุเป้าหมายการแจกจ่ายวัคซีนทั้ง 2 ฝ่าย
ซึ่งผมหวังว่าการหารือของเรานั้นจะนำไปสู่การมีข้อตกลงร่วมกันอันจะให้ประโยชน์แก่การแจกวัคซีนสูงสุดให้กับประชาชนคนไทยเพื่อที่จะใช้ในประเทศไทย
ผมต้องขอขอบคุณอีกครั้งกับการที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้ามีเจตนาที่ดีในการทำงานเพื่อเข้าถึงวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าอย่างตรงเวลา เราหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากคุณต่อไปในภายภาคหน้าและหวังว่าเราจะสามาถหาทางออกอันเป็นมิตรร่วมกันด้วยความเชื่อมั่นและเจตนาที่ดี (ดูหนังสือประกอบ)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/