กรมราชทัณฑ์เผยสถานการณ์การระบาดโควิดในเรือนจำดีขึ้นต่อเนื่อง ผู้ต้องขังติดป่วยใหม่ 9 ราย เผยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รักษาหายมากถึง 3.5 เท่า รวมสะสมหายป่วยแล้ว 90% คาดลดสถานะเรือนจำสีแดงหลายแห่ง ต้นเดือน ก.ค.นี้
...................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถานว่าข้อมูล ณ วันที่ 27 มิ.ย. 2564 เวลา 16.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 9 ราย รักษาหายวันนี้ 1,129 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 3,264 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
สถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาด จำนวน 125 แห่ง ลดลง 1 แห่ง จากการตรวจพบผู้ต้องขังแดนในติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ส่งผลให้เรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 14 แห่ง โดยรายงานผู้ติดเชื้อในวันนี้ เป็นการติดเชื้อจากแดนในของเรือนจำสีแดง จำนวน 8 ราย และการตรวจพบเชื้อในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 1 ราย จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขณะที่จำนวนผู้ป่วยรักษาหายยังมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง รวมรักษาหายสะสม 32,454 ราย หรือ 90% ของผู้ป่วยสะสม โดยมีเรือนจำพิเศษธนบุรี ที่ผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาจนหายทั้งหมด ไม่มีผู้ติดเชื้อในเรือนจำ ส่วนสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ มีทั้งสิ้น 3,264 ราย เป็นผู้ป่วยสีเขียว 2,831 ราย หรือ 86.75% สีเหลือง 409 ราย หรือ 12.5% และสีแดง 24 ราย หรือ 0.75% ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นมีจำนวน 40 ราย หรือ 0.1% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 21-27 มิ.ย.2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งสิ้น 759 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2,620 ราย หรือเกือบ 4.5 เท่า ส่วนใหญ่เป็นการพบเชื้อจากเรือนจำกลางสงขลา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง และทัณฑสถานหญิงสงขลา ขณะที่มีจำนวนผู้หายป่วยรวม 2,640 ราย มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 3.5 เท่า โดยในระยะ 10 วันที่ผ่านมา มีเรือนจำสีแดงไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 แห่ง คือ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำจังหวัดสงขลา และเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ส่วนเรือนจำและทัณฑสถานที่ได้รับการลดสถานะจากเรือนจำสีแดงและอยู่ระหว่างการปรับสถานะเป็นสีขาว 3 แห่งคือ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง เรือนจำกลางเชียงใหม่ และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งพบว่าแนวโน้มสถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลที่ลดลง มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายเพิ่มขึ้น
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงในหลายพื้นที่ แต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังอย่างเข้มข้นในทุกจุดอยู่เสมอ ในเรือนจำและทัณฑสถานที่ยังไม่พบการแพร่ระบาด ให้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการป้องกันเชื้อเข้าสู่เรือนจำและทัณฑสถานชั้นใน ที่ต้องดำเนินการคัดกรองเชื้อแบบ 100% ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และครอบครัว ที่ต้องขอความร่วมมือในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ งดเว้นการเดินทางเข้าสถานที่เสี่ยง และการปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันโรคในผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างเคร่งครัด รวมถึงระบบการรักษาความสะอาด และสุขอนามัยในเรือนจำและทัณฑสถาน โดยนำแนวทางการปฏิบัติของโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จะช่วยให้ระบบสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหลังประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์โควิดภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 34/2564 ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดของกรมราชทัณฑ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน และคาดว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อจะดีขึ้นในทุกจุด ทั้งผู้ติดเชื้อรายใหม่และในผู้ที่รักษาหาย โดยเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ลดลง มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายเพิ่มขึ้น ขณะนี้มีเรือนจำ/ทัณฑสถานหลายแห่งที่สามารถคืนพื้นที่เพื่อเป็นแดนปลอดเชื้อได้เกือบทั้งหมด และเหลือจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังคงรักษาซึ่งคาดว่าจะหายทั้งหมดและเข้าสู่กระบวนการลดสถานะจากเรือนจำสีแดงได้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า แม้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงในหลายพื้นที่ แต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังอย่างเข้มข้นในทุกจุดอยู่เสมอ โดยในเรือนจำและทัณฑสถานที่ยังไม่พบการแพร่ระบาด ให้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการป้องกันเชื้อเข้าสู่เรือนจำและทัณฑสถานชั้นใน ที่ต้องดำเนินการคัดกรองเชื้อแบบ 100% ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และครอบครัวที่ต้องขอความร่วมมือในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ งดเว้นการเดินทางเข้าสถานที่เสี่ยง และการปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันโรคในผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างเคร่งครัด รวมถึงระบบการรักษาความสะอาด และสุขอนามัยในเรือนจำและทัณฑสถานที่ต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ ได้รับวัคซีนมาแล้วทั้งสิ้น 66,877 โดส เป็นวัคซีนจากการจัดสรรของกรมควบคุมโรค 50,000 โดส ซึ่งได้ดำเนินการฉีดไปแล้ว 41 แห่ง และเป็นวัคซีนที่จัดสรรเพิ่มนอกแผน รวมถึงวัคซีนจากแหล่งอื่น 16,877 โดส โดยเป็นวัคซีนพระราชทานซิโนฟาร์ม 6,400 โดส เพื่อฉีดแก่เรือนจำกลางชลบุรี วัคซีนจากจังหวัดภูเก็ตเพื่อฉีดแก่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต 4,857 โดส วัคซีนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคายเพื่อฉีดแก่เรือนจำจังหวัดหนองคาย 42 โดส รวมถึงการจัดสรรแยกจากกรมควบคุมโรคอีก 5,578 โดส เพื่อฉีดแก่เรือนจำจังหวัดสุโขทัย เรือนจำอำเภอสวรรคโลก และเรือนจำพิเศษมีนบุรี ซึ่งในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนต่อจากนี้ ยังอยู่ระหว่างประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายวัคซีนไปยังเรือนจำสีขาวในเขตพื้นที่อื่น ๆ จนกว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ยังคงที่ ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม สถานะผู้ป่วยทั้งหมด 5 คน เป็นเยาวชน 3 คน และเจ้าหน้าที่ 2 คน จากผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 93 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.38 ขณะที่สถานพินิจฯหรือศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีสถานะรวม 36 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง โดย 20 แห่งอยู่ระหว่างรอตรวจและรอผล 8 แห่ง หมดสถานะสถานพินิจฯ หรือศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว 7 แห่ง และติดเชื้อรวม 5 แห่ง ด้านสถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 106 คน จากทั้งหมด 4,400 คน หรือร้อยละ 0.05 ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2,988 คน จากทั้งหมดจำนวน 4,415 คน หรือคิดเป็น 67.68%
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage