กรมควบคุมโรคเผยเป้าหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสในปีนี้-ปีหน้าอีกอย่างน้อยอีก 50 ล้านโดส นายกแจงไม่ต้องห่วงเรื่องงบ ส่วนแผนการกระจายวัคซีนแบ่งเป็นรายสัปดาห์ตามสถานการณ์ระบาดในพื้นที่
.......................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงการกระจายวัคซีนโควิดว่า วันนี้เป็นวันที่น่ายินดีที่กรมควบคุมโรคได้รับมอบวัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย จำนวน 1.8 ล้านโดส เป็นวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย ได้รับรับรองคุณภาพมาตรฐานระดับสากล โดยแผนการกระจายวัคซีนตามเป้าหมายการฉีดในวันที่ 7 มิ.ย.2564 พร้อมกันทั่วประเทศ ตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีให้ไว้ คือคนในประเทศไทย ทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่อยู่ในประเทศ ที่สมัครใจจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดยไม่คิดมูลค่าภายในปี 2564 ที่ผ่านมาตั้งแต่เดือน ก.พ. มีการฉีดวัคซีนครั้งแรก ของบริษัทซิโนแวค จนบัดนี้ฉีดไปแล้วเกินกว่า 4 ล้านโดส โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการระบาดมาก เช่น กทม. มีการฉีดไปแล้วกว่า 1 ล้านโดส สามารถยับยั้งการระบาดได้ส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ตามเป้าหมายที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้ไว้ว่าภายในปี 2564 จะต้องหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส และในปี 2565 อีก 50 ล้านโดส และต้องเผื่อไว้สำหรับอาจต้องฉีดเพิ่มเพื่อกระตุ้นอีกหนึ่งเข็ม หรือกรณีการกลายพันธุ์ของเชื้อ จึงต้องมีแผนเตรียมไว้อย่างน้อยอีก 50 ล้านโดส ในปี 2565 ไม่ต้องห่วงว่างบประมาณปี 2565 จะเป็นอย่างไร แต่รัฐบาลจะหาแนวทางหาเงินมาให้กระทรวงสาธารณสุขได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้หรืองบกลางต่างๆ
นพ.โอภาส กล่าวว่า ตามแผนจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดสในปีนี้ ได้รับของซิโนแวคแล้ว 6 ล้านโดส และลงนามในสัญญากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทยอีก 61 ล้านโดส รวมแล้วยังขาดอีก 33 ล้านโดส นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้เร่งจัดหาเพิ่มเติม โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการลงนามสัญญาการจองวัคซีนกับบริษัทไฟเซอร์ ขณะที่บริษัท จอนห์สัน แอนด์ จอนห์สัน ก็อยู่ในขั้นตอนการเตรียมร่างสัญญาลงทะเบียนจองวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อ คาดว่าจะได้ทั้งหมด 25 ล้านโดส และจะมีแผนการจัดซื้อวัคซีนจากซิโนแวคอีกอย่างน้อย 8 ล้านโดส ก็จะครบ 100 ล้านโดสตามแผน เดือนนี้น่าจะมีข่าวดีให้ทราบ
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับการกระจายวัคซีน เป็นการกระจายในภาวะฉุกเฉินทั่วโลก ฉะนั้นจึงไม่มีการเก็บค้าง เป็นการกระจายทันทีเมื่อผลิตเสร็จ แผนที่วางไว้จึงมีการเคลื่อนไปเรื่อยๆทุกสัปดาห์ แต่จะกระจายให้ได้ต่อเนื่องในทุกสัปดาห์ เพื่อการฉีดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ แผนการกระจายจะเป็นไปตามอัตราจำนวนประชากร และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อในจังหวัดนั้น ที่มีการจัดวัคซีนเสริมเข้าไป รวมถึงจุดที่มีการระบาด เช่นเรือนจำ อีกส่วนคือจังหวัดกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เช่น การท่องเที่ยว โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ถ้าเทียบกับจำนวนประชากร เป็นจังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนมากที่สุดในประเทศไทย ขณะนี้เกิน 50 เปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นการเตรียมตัวเปิดรับนักท่องเที่ยวตามแผนพิเศษ รวมถึงกลุ่มแรงงานที่มีการระบาดในหลายแห่ง จำเป็นต้องใส่วัคซีนเสริมเข้าไป เช่น จังหวัดชลบุรี ระยอง และจังหวัดชายแดน เช่น จังหวัดตาก
"เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานผู้ประกันตนก็จะมอบให้สำนักงานประกันสังคมจัดสรรวัคซีน จำนวน 1 ล้านโดส ให้กับผู้ประกันตนในเดือนมิถุนายน ซึ่งผู้จองลงทะเบียนในหมอพร้อม ยืนยันว่าวันที่ 7-9 มิ.ย. ท่านจะได้ฉีดอย่างแน่นอน ไม่มีการเลื่อน ในส่วนของกรุงเทพฯเรามีการจัดสรรวัคซีนให้ 1 ล้านโดส การจัดสรรในกลุ่มอื่นๆเพิ่มเติมเช่นสำนักงานประกันสังคม 1 ล้านโดส กลุ่มมหาวิทยาลัยต่างๆ 5 แสนโดส โดยรวมกรุงเทพฯจะมีวัคซีน 2.5 ล้านโดส ซึ่งมีการกระจายไปแล้วตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา" นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีจุดฉีดในต่างจังหวัดทั้งหมด 993 จุด ที่พร้อมให้บริการในวันที่ 7 มิ.ย. กทม.มี 25 จุด และสำนักงานประกันสังคมอีก 25 จุด ในส่วนของมหาวิทยาลัยอีก 11 แห่ง ที่มีโควต้าการฉีดวัคซีนบุคลากรของตนเองและประชาชนบริเวณโดยรอบ 5 แสนโดส ที่อยู่ระหว่างการทบทวนจุดฉีด และยังมีจุดฉีดกลาง เช่น สถานีกลางบางซื่อ สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งทุกจุดฉีดมีการปรับเปลี่ยนได้ บางจังหวัดมีการฉีดมากอาจเพิ่มขึ้น บางจังหวัดฉีดน้อยอาจลดลง โดยจะเห็นว่าแผนการฉีดกับจุดฉีดจะสอดคล้องกัน ซึ่งทางส่วนกลางคือกระทรวงสาธารณสุข และศบค.จะติดตามและมีการปรับประเมินทุกวัน ขอยืนยันว่าวันที่ 7 มิ.ย.นี้ มีวัคซีนพร้อมฉีด ขอเชิญชวนประชาชนไปรับวัคซีนตามที่กำหนด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage