ผบช.ก.นำทีม ปทส.เปิดปฏิบัติการ'ทวงคืนผืนป่า เยียวยาผืนดิน' ยึดคืนที่ดิน 512 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 34 ล้านบาท หลังถูกนายทุนภาคใต้ยึดทำสวนยาง-ปาล์ม
.......................................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2564 พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) พร้อมด้วย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ และ นายสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) สนธิกำลังกับตำรวจภูธรจังหวัดเลย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ฝ่ายปกครอง และตำรวจทางหลวง ร่วมกันปฏิบัติยุทธการ 'ทวงคืนผืนป่า เยียวยาผืนดิน' ในพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยส้ม และป่าภูผาแดง ท้องที่บ้านห้วยส้มใต้ ต.ผานกเค้า อ.ภูกระดึง จ.เลย
นายชีวะภาพ กล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามตามที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) มีมาตรการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ของรัฐ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่งให้หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ผาขาว ดำเนินการสำรวจการถือครองที่ดินอยู่อาศัย ทำกินของราษฎรในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยส้มและป่าภูผาแดง ท้องที่ บ้านห้วยส้มใต้ เพื่อประกอบการพิจารณาผ่อนผันอยู่อาศัย ทำกินในพื้นที่ป่าตามมติ ครม. 21 พ.ย.2561 ปรากฏว่ามีแปลงยางพาราขนาดใหญ่และปาล์มน้ำมันที่ยังไม่มีผู้มาแสดงตัวเป็นผู้ถือครอง ทั้งสิ้นกว่า 512 ไร่
นายชีวะภาพ กล่าวด้วยว่า ได้รายงานถึงผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 ก่อนประสานกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.3 บก.ปทส.) เพื่อร่วมทำการสืบสวนและแฝงตัวในพื้นที่ จนพบมีการบุกรุกถือครองใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนายทุนจากทางภาคใต้ โดยมีมูลค่าความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ประมาณ 34 ล้านบาท
พล.ต.ต.พิทักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ทาง บก.ปทส.จะทำการสืบสวนหาตัวกลุ่มนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ และ บก.ปทส.จะรับคดีเอง และขออนุญาตสอบสวนจาก บช.ก. เพื่อเป็นการป้องปรามการบุกรุกพื้นที่อื่นๆ ที่มีลักษณะเช่นเดียวกัน ที่ยังคงพบอยู่ทั่วประเทศในหลายๆพื้นที่ ส่วนการเยียวยาผืนดินให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง เป็นเรื่องที่กรมป่าไม้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือกันดำเนินการ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอฝากประชาสัมพันธ์เตือนถึงประชาชน หากพบบุคคลที่มีพฤติการณ์ในการลักลอบตัดไม้ ทำลาย หรือบุกรุกถือครองพื้นที่ป่า และการกระทำความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถแจ้งเบาะแสมาที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สายด่วน 1136 เพจเฟซบุ๊ก บก.ปทส. Greencop – Thailand หรือ LINE official : @nedpolice
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage