รัฐบาลเตือนร้านค้าเข้าร่วมโครงการเยียวยา ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โทษสูงจำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท พร้อมขอให้ร้านค้าเห็นใจประชาชน ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกัน
.................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการคนละครึ่ง ที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โครงการเราชนะ ที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ดำเนินการมาระยะหนึ่ง และโครงการเรารักกันที่จะเริ่มใช้จ่ายได้เร็วๆนี้ โดยเฉพาะในส่วนของการควบคุมดูแลร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ให้ติดตามตรวจสอบไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หลังจากที่มีประชาชนร้องเรียนถึงปัญหานี้มายังรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีขอให้ร้านค้าเห็นใจประชาชน เพราะทุกคนได้รับผลกระทบจากโควิดเหมือนกัน รัฐบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อให้ผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธ.ค.63 จนถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินคดีกับร้านค้าที่กระทำผิดไปแล้ว 68 ราย ในจำนวนนี้เป็นร้านธงฟ้า 47 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งไปยังร้านค้าทุกแห่งและออกตรวจสอบไม่ให้ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับ เช่น ห้ามยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ห้ามรับหรือแลกเป็นเงินสด ห้ามบังคับการซื้อหรือขายสินค้า ห้ามจำหน่ายบุหรี่ สุรา เบียร์ ห้ามเอาเปรียบขึ้นราคาและขายเกินราคาที่กำหนดโดยเด็ดขาด
หากพบหลักฐานว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับร้านธงฟ้านั้นมีข้อกำหนดชัดเจนอยู่แล้วว่าควรทำอย่างไร ดังนั้น ถ้าตรวจพบการกระทำผิดจะถูกยกเลิกจากโครงการทันทีและอาจถูกยึดเครื่อง EDC หรือยกเลิกการใช้แอปพลิเคชัน ทำให้ไม่สามารถขายสินค้ากับโครงการได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ หากประชาชนพบร้านค้าที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage