'ราเมศ'แถลงข่าว โต้ฝ่ายค้าน รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลปรสิต ยันทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถามกลับ รัฐบาลปรสิต คือรัฐบาลทุจริตจำนำข้าวไม่ใช่หรือ ด้านฝ่ายรัฐบาลตั้งวอร์รูม หวั่นอภิปรายผิดมาตรา 112
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2564 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการประชุมดำเนินการตามญัตติของฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลรวม 10 ราย โดยบรรยากาศภายนอกห้องประชุมนั้นทางด้านของนายราเมศ รัตนะเชวงเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎรได้แถลงข่าวในกรณีที่พรรคฝ่ายค้านได้กล่าวหาว่ารัฐบาลเป็นรัฐบาลปรสิตนั้นถือว่าเป็นการกล่าวหาที่สวนทางเกินจากความเป็นจริง ในความเป็นจริงแล้วต้องเรียนสื่อมวลชนว่ามันไม่มีสิ่งใดที่จะถูกใจทุกคนไปทั้งหมด เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะมองออกว่าประโยชน์ที่ประชาชนได้รับมันมีอะไรบ้าง เกษตรกรได้รับการดูแลวิถีชีวิตที่ดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีโครงการประกันรายได้ มีการช่วยเหลือปัญหาผืนดินแห้งแล้ว มีโครงการอื่นๆอีกมากมายที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การเข้าถึงการบริการของภาครัฐมากมาย การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ และการทำให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขมากขึ้น
"การบริหารราชการแผ่นดินของเรายึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับพี่น้องประชาชน หลักการต่างๆเหล่านี้รัฐบาลได้ทำให้ประชาชนเห็นว่ามีหลักการที่ชัดเจนในการปกป้อง เชิดชูพระมหากษัตริย์ มีนโยบายอีกมากมายที่เกิดกับพี่น้องประชาชน ถ้าหากเป็นรัฐบาลปรสิตคงจะสูบกินประเทศจนเหลือแต่กระดูกไปแล้วเหมือนที่บางรัฐบาลทำ ซึ่งสาเหตุที่ต้องอธิบายกับฝ่ายค้านก็เพราะว่าคำว่ารัฐบาลปรสิตนั้นจะเหมาะสมกับรัฐบาลที่ทุจริตมากกว่า อย่างเช่นการที่มีการออกนโยบายในเชิงที่คิดว่าจะมีการทุจริตในวันข้างหน้า นำไปสู่การโกงประเทศอย่างเป็นระบบ เช่นรัฐบาลหนึ่งที่ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว นี่คือรัฐบาลปรสิต ที่ประเทศมีความเสียหายนับล้านๆบาท ฝ่ายค้านคงเข้าใจผิด เลยไปพูดกล่าวหาผิดรัฐบาล ประเด็นนี้ของฝ่ายค้านประชาชนสามารถตัดสินได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่รัฐบาลปรสิต แต่เป็นรัฐบาลที่ทำงานเพื่อชาติและประชาชน"นายราเมศกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านโดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.เพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นายราเมศกล่าวว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้น มีการเตรียมข้อมูลไว้แล้วทุกเรื่อง ทุกเรื่องมีคำตอบที่ชัดเจน และไม่มีเรื่องการทุจริตใดๆทั้งสิ้น ขอให้รอตอนนายจุรินทร์ชี้แจงอีกทีหนึ่ง
@รัฐบาลตั้งวอร์รูมติดตามฝ่ายค้านอภิปรายหวั่นผิด ม. 112
อนึ่งก่อนหน้านี้นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (สสอ.) ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ต้นยันจบ และพยายามเตือนถึงฝ่ายค้านอย่ามีการอภิปรายพาดพิงจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบัน และทำผิดกฎหมายตามมาตรา 112 เรายืนยันว่า กฎหมายไม่ได้ไปรังแกหรือแกล้งใคร แต่ ส.ส. ที่อภิปราย โดยเฉพาะพรรคร่วมฝ่ายค้านหากพบว่า กระทำผิดทางคณะกรรมการฯ จะรวบรวมหลักฐานส่งทีมกฎหมายร้องทุกข์กล่าวโทษในทันที ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังไม่พบว่ามีผู้ใดกระทำผิดในการพาดพิงสถาบัน
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า ที่ต้องจับตาคือการอภิปรายของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ไม่ใช่ข่มขู่แต่เป็นการเตือนหรือปรามไว้ก่อนว่าอย่าทำผิดกฎหมาย อย่าพาดพิงสถาบันอย่างเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมาได้เห็นพฤติกรรมของส.ส. พรรคก้าวไกล ที่พยายามจะแก้กฎหมายมาตรา 112 และยังมี ส.ส.พรรคก้าวไกลบางคน ไปสนับสนุนการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบันอีก จึงคาดว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล อาจจะมีการอภิปรายผิดกฎหมายได้จึงต้องจับตาดูว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วอร์รูมมีการรวบรวมรายชื่อผู้ที่คาดว่า จะอภิปรายพาดพิงสถาบัน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อขณะนี้ ซึ่งได้มีการคาดการณ์ไว้หมดแล้วว่า ส.ส.คนไหนจะอภิปรายในเรื่องใดบ้าง
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังต้องจับตาดูประเด็นการสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จที่มีการใส่ร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และรัฐมนตรี โดยไม่มีหลักฐาน และใช้หลักฐานเท็จในการกล่าวหาด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นความเสียหายส่วนบุคคล จึงจะต้องมีการปรึกษาเจ้าตัว เพื่อดำเนินคดีด้วยว่าจะมอบอำนาจให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทหรือทำให้เสียหายหรือไม่
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage