คณะกรรมการปราบบ่อนเตรียมประชุมนัดแรก 21 ม.ค.นี้ ‘ชาญเชาวน์’ เผยไม่ใช่ผู้ลงมือจับกุม แต่มีหน้าที่ตรวจสอบ-แนะนำหน่วยงาน พร้อมรายงานตรงถึงนายกฯทุก 1 เดือน
...............................................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2564 นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อรับทราบนโยบายการทำงาน พร้อมเปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีหน้าที่กำกับเชิงนโยบายการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกับบ่อนการพนันผิดกฎหมาย
ทั้งนี้นายวิษณุ เน้นย้ำอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ว่า ไม่ใช่เป็นผู้ลงมือไปจับกุม แต่มีหน้าที่แนะนำและตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเดินไปในทิศทางไหน บังคับใช้กฎหมายครบถ้วนแล้วหรือไม่ โดยจะเรียกสำนวนการสอบสวนจากตำรวจมาร่วมพิจารณา อีกทั้งจะตรวจสอบด้วยว่า มีการประสานงานระหว่างกันหรือไม่ เพราะการทำงานในเรื่องของคดีทำนองนี้ ต้องเน้นการประสานการทำงานระหว่างหน่วยงานต่างๆจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมการฯ จะไปช่วยในสิ่งเหล่านี้ อีกทั้งทางคณะกรรมการฯจะรายงานเชิงลับให้นายกรัฐมนตรีโดยตรงอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และ ตนได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯนัดแรกในวันที่ 21 ม.ค. เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งในที่ประชุมจะหารือถึงแนวทางดำเนินการติดตามเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการยึดทรัพย์ได้หรือไม่อย่างไร และได้หารือวางกรอบการทำงานว่าจะประชุมสัปดาห์ละกี่วัน ทั้งนี้ คณะกรรมการฯได้รับนโยบายมาด้วยว่า ประชาชนคาดหวังในเรื่องการปราบปรามบ่อนการพนัน ซึ่งส่วนตัวก็อยากให้จัดทำรายงานฉบับแรกออกมาเร็วหน่อย ก็คิดว่าอยู่ภายใน1 เดือนก็ คาดว่าจะนำเสนอนายกฯได้
นายชาญเชาวน์ กล่าวถึงการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมด้วยว่า ผลลัพธ์จะไม่ออกมาจากคณะกรรมการฯ เพราะคณะกรรมการไม่เหมือนกับชุดของนายวิชา มหาคุณ ที่ตรวจสอบเกี่ยวกับการดำเนินคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส เพราะคณะกรรมการชุดของตนมีตัวประธานคนเดียวที่ระบุเป็นชื่อบุคคล ส่วนที่เหลือใช้หน่วยงานเป็นหลัก หมายความว่าใช้ภารกิจแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำอยู่แล้ว และ เน้นการให้หน่วยงานเหล่านั้นต้องทำหน้าที่ในส่วนที่เขาควรทำ แล้วเราไปตรวจสอบเชิงนโยบาย หรือบางเรื่องไปผู้ให้คำแนะนำ หรือ โค้ชให้หน่วยงานเหล่านั้น
เมื่อถามว่า คิดว่ากรณีที่อ้างว่ามีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน จะมีอุปสรรคในการทำงานของคณะกรรมการฯ หรือไม่ นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า ถ้ามีคนมีสีที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็คงจะเป็นคนที่อยู่ในหน่วยงานซึ่งเป็นองค์ประกอบในคณะกรรมการฯ ดังนั้นหน่วยงานใด หากรู้ว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเจอตอ ก็ให้แจ้งมา ตนจะนำไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งการรายงานลับก็ถือเป็นข้อดีเพราะหากพบอะไร ก็สามารถรายงานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องมีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องก่อน
นอกจากนี้ นายวิษณุได้ย้ำต่อคณะกรรมการฯ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสมาได้เลยผ่านช่องทางสายด่วนรัฐบาล 1111 และ ป.ป.ท. จะตั้งศูนย์รับแจ้งเบาะแสด้วย สิ่งเหล่านี้จะถือเป็นโอกาสที่เราจะได้ตรวจสอบข้อมูลจากฝ่ายต่างๆ และ ข้อมูลจากประชาชนด้วย และนำไปรายงานให้นายกฯต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการลงไปหาข้อมูลในพื้นที่จริงในจังหวัดต่างๆด้วยหรือไม่ นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่เป็นงานของคณะอนุกรรมการที่ตนจะมอบให้ไปเก็บข้อมูลและรายงานกลับเข้ามา ซึ่งในการประชุมนัดแรกจะมีการคุยเรื่องการตั้งผู้ทำหน้าที่ในคณะอนุกรรมการต่างๆด้วย ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในคณะกรรมการฯ จะไปเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งรวมถึงการศึกษาปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อที่จะดูว่ามีอำนาจตั้งอนุกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายได้หรือไม่
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 