มูลนิธิเมาไม่ขับ ทำหนังสือเรียก อสส.-ผบ.ตร. ชี้แจงวิธีคำนวณแอลกอฮอล์ ‘วรยุทธ อยู่วิทยา' ทายาทเครือกระทิงแดง คดีขับรถชน ตร.เสียชีวิตปี 2555
..................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ทำหนังสือเรื่อง ขอให้ข้อมูลในคดีนายบอส อยู่วิทยา เกี่ยวกับการคำณวนปริมาณแอลกอฮอล์ ถึงอัยการสูงสุดและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยหนังสือมีเนื้อหาระบุว่า
ตามที่คณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดี กรณีไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่งลงนามแต่งตั้งโดยอัยการสูงสุดได้แถลงผลการตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 120 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยรายละเอียดในการแถลงข่าว มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้ต้องหาที่ 1 นายวรยุทธ อยู่วิทยา ปรากฎผลการตรวจเลือดพบมีปริมาณแอลกอฮอล์ 69 มิลลิกัมเปอร์เซนต์ ซึ่งในการแถลงมีการระบุพยานที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้คำนวนอัตราแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายของผู้ต้องหาที่ 1 ลดลง 15 เปอร์เซนต์ ต่อ 1 ชั่วโมง โดยย้อนไปในเวลาขณะที่เกิดเหตุจะพบว่าผู้ต้องหามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย 389 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ซึ่งเมาจนไม่มีสติที่จะขับขี่รถได้
มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรที่ทำงานขับเคลื่อนการรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2539 ขอเรียนชี้แจงให้ทราบถึงประเด็นที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนไว้ดังนี้
1.การคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายนายวรยุทธ อยู่วิทยา ตามที่มีการระบุไว้ข้างต้น ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับทุกคน เนื่องจากการลดลงของปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายคนมีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายปัจจัย เช่น เพศ อายุ น้ำหนักตัว อาหารที่รับประทาน ระบบการขับถ่ายของร่างกาย ฯลฯ
2.ประเด็นที่มีการระบุว่าหากคำนวณย้อนหลังไปเวลาช่วงเกิดเหตุ จะพบว่านายวรยุทธ อยู่วิทยา มีแอลกอฮอลในร่างกาย 389 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ และผู้เชี่ยวชาญในขณะนั้นลงความเห็นว่าเป็นการเมาโดยไม่มีสติที่จะขับขี่รถได้ จากประสบการณ์ที่มูลนิธิเมาไม่ขับได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 เคยพบผู้ขับขี่รถที่ปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 390 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ก็ยังสามารถขับรถเข้ามายังด่านตรวจได้ ดังนั้นการลงความเห็นดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มูลนิธิเมาไม่ขับ จึงมีหนังสือมายังท่านเพื่อขอให้ข้อมูลใหม่ เพื่อเป็นข้อมูลที่ทางสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมไว้เพื่อประโยชน์ในการทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุดในคดีดังกล่าว และคดีอื่น ๆ ด้วย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage