ตีตกหมดทุกกรณี! กกต.ชี้ไม่มีหลักฐานรับฟังได้ว่า กกต.นครปฐม นับคะแนนหน่วยเลือกตั้งในเขต 2 จ.นครปฐมผิดพลาด เหตุเมื่อได้รับการทักท้วงได้แก้ไขตัวเลขทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2563 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ที่ 29/2563 กรณีการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตที่ 2 จ.นครปฐม โดยก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัด (กกต.จังหวัด) นครปฐม และเจ้าหน้าที่ กกต.นครปฐม ถูกกล่าวหาว่า กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 119 กรณีจงใจนับบัตรเลือกตั้งหรือคะแนนให้ผิดไปจากความเป็นจริง หรือกระทำด้วยประการใดโดยมิได้มีอำนาจกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายให้บัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเป็นบัตรเสีย หรือกระทำการแก่บัตรเสียให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ หรืออ่านบัตรเลือกตั้งผิดไปจาความจริง หรือทำงานรายการเลือกตั้งไม่ตรงกับความจริง แบ่งเป็น 5 กรณี
1.กรณีรายงานผลการนับคะแนน ส.ส. หน่วยเลือกตั้งที่ 7 ม.7 ต.ทัพหลวง อ.เมืองนครปฐม เขต 2 จ.นครปฐม มีจำนวนบัตรเลือกตั้ง 543 ใบ ไม่ตรงกับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาแสดงตน 533 ราย โดประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ให้ถ้อยคำว่า ได้รับแจ้งเบื้องต้นว่ามีบัตรเลือกตั้ง 533 ใบ และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 533 ราย แต่เมื่อทบทวนตรวจสอบอีกครั้งพบว่า จำนวนบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ 10 ใบ จึงแก้ไขตัวเลขเป็น 543 ใบ แต่มิได้แก้ไขจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และจากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่ 7 พบว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิมีจำนวน 543 ราย ตรงกับจำนวนบัตร อีกทั้งการนับคะแนนไม่มีการทักท้วงการปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับไม่มีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจงใจนับบัตรเลือกตั้งหรือคะแนนให้ผิดจากความเป็นจริง พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่ากระทำผิดตามข้อกล่าวหา
2.กรณีรายงานผลการนับคะแนน ส.ส. หน่วยเลือกตั้งที่ 4 ม.4 ต.กระตีบ อ.กำแพงแสน เขต 2 จ.นครปฐม มีจำนวนบัตรเลือกตั้ง 528 ใบ รวมกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่เหลือ 140 ใบ ไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ได้รับการจัดสรร 680 ใบ โดยประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ให้ถ้อยคำว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการคำนวณโดยนำจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อทั้งหมด 668 ราย ลบด้วยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาแสดงตน 528 ราย จึงเหลือบัตรเลือกตั้ง 140 ใบ และทราบภายหลังว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งที่เหลือจะได้จากการนำจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ได้รับจัดสรรไปลบด้วยจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ และจากการตรวจสอบแบบรายงานผลการนับคะแนน จำนวนบัตรเลือกตั้งที่เหลือ 140 ใบ มิได้กระทบต่อจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาแสดงตน บัตรเลือกตั้งที่ใช้ รวมถึงบัตรดี บัตรเสีย อีกทั้งการนับคะแนนไม่มีการทักท้วงการปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับไม่มีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจงใจนับบัตรเลือกตั้งหรือคะแนนให้ผิดจากความเป็นจริง พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่ากระทำผิดตามข้อกล่าวหา
3.กรณีรายงานผลการนับคะแนน ส.ส. หน่วยเลือกตั้งที่ 5 ม.5 ต.กระตีบ อ.กำแพงแสน เขต 2 จ.นครปฐม มีจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ 395 ใบ ไม่ตรงกับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 393 ราย โดยประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 5 ให้ถ้อยคำว่า เมื่อนำเอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งไปส่ง กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 ได้รับแจ้งว่า ตัวเลขจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ 393 ใบไม่ถูกต้อง จึงได้ตรวจสอบอีกครั้งแล้วพบว่า ระบุตัวเลขดังกล่าวผิดพลาดไป และได้มีการแก้ไขตัวเลขให้ตรงกับบัตรเลือกตั้งที่ใช้ไปจริง 395 ใบแล้ว อีกทั้งการนับคะแนนไม่มีการทักท้วงการปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับไม่มีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจงใจนับบัตรเลือกตั้งหรือคะแนนให้ผิดจากความเป็นจริง พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่ากระทำผิดตามข้อกล่าวหา
4.กรณีรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. หน่วยเลือกตั้งที่ 1 ม.1 ต.ห้วยม่วง อ.กำแพงแสน เขต 2 จ.นครปฐม มีจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ 482 ใบ ไม่ตรงกับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาแสดงตน 480 ราย โดยประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 1 ให้ถ้อยคำว่า เมื่อนำเอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งไปส่งให้ กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 ได้รับแจ้งว่าตัวเลขผิดพลาด จึงได้ตรวจสอบบัตรดี บัตรเสีย และบัตรที่ไม่เลือกผู้ใดอีกครั้ง และได้มีการแก้ไขจำนวนบัตรเลือกตั้งใช้จาก 480 ใบ เป็น 482 ใบ จากการจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 482 ราย ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งดังกล่าว อีกทั้งการนับคะแนนไม่มีการทักท้วงการปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับไม่มีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจงใจนับบัตรเลือกตั้งหรือคะแนนให้ผิดจากความเป็นจริง พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่ากระทำผิดตามข้อกล่าวหา
5.กรณีผู้ร้องเรียน กล่าวอ้างว่าได้รับคะแนน ส.ส. ของหน่วยเลือกตั้งที่ 10-13 ต.สระพัฒนา อ.กำแพงแสน เขต 2 จ.นครปฐม เพียง 2 คะแนน ทั้งที่หน่วยเลือกตั้งอื่น ๆ ผู้ร้องได้รับคะแนนเฉลี่ย 70 คะแนน การนับคะแนนเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่ 10 จึงมีความผิดพลาด จากการสืบสวนไม่มีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่า มีการนับบัตรเลือกตั้ง ส.ส. หน่วยที่ 10 ไม่ตรงกับความจริง ประกอบกับข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องเป็นเพียงการคาดเดาโดยไม่มีพยานสนับสนุน พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่ากระทำการฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา
ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกร้อง (กกต.จังหวัดนครปฐม) กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ ตามคำร้องแต่อย่างใด
อ่านรายละเอียด : https://www.ect.go.th/ect_th/download/article/article_20200408115702.pdf
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/