องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ศาลฎีกา พิพากษาแก้ยกโทษจำคุก ‘ชญาดา วิภัติภูมิประเทศ’ อดีต ส.ก. ภริยา ‘พลภูมิ’ คดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ แต่ยังคงโทษปรับ 4,000 บาท ห้ามเล่นการเมือง 5 ปี
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา โดยองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ในคดีที่นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ผู้ถูกกล่าวหา (ภรรยานายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย) ได้ยื่นอุทธรณ์ผลคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ที่พิพากษาจำคุก 1 เดือน รอการกำหนดโทษ 1 ปี และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปี กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ
โดยองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เสียงข้างมาก พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จะถือว่าจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ต้องเป็นการกระทำโดยรู้สำนึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดจากการกระทำของตน กรณีนี้คือทำให้เสียหายแก่การตรวจสอบความถูกต้อง และความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สิน อันเป็นวัตถุประสงค์ของกฎหมาย
เมื่อทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้แสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน มีถึง 5 รายการ แต่ละบัญชีมีการเคลื่อนไหว มีเงินเข้าบัญชีและมีการหักชำระหนี้เงินกู้ มีการนำเช็คเข้าบัญชีหลังจากเปิดบัญชีกับมีเงินคงเหลือในบัญชี แม้บัญชีดังกล่าวจำนวน 4 บัญชีจะเป็นบัญชีของคู่สมรส นางชญาดา ผู้ถูกกล่าวหา ก็มีหน้าที่ต้องแสดงในบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน สำหรับหนี้บัตรเครดิตของคู่สมรสที่มียอดหนี้ค้างชำระรวมกันเป็นจำนวนที่สูง และมีการผ่อนชำระบางส่วน คู่สมรสทราบว่ามียอดหนี้ค้างชำระ ผู้ถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่ต้องแสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเช่นกัน
ส่วนข้อที่นางชญาดา ผู้ถูกกล่าวหา อ้างว่าเข้าใจว่ายอดใช้จ่ายบัตรเครดิตไม่ใช่หนี้เงินกู้ และไม่ใช่สัญญากู้กับธนาคารจึงไม่จำต้องแสดงนั้น เป็นเพียงความเข้าใจของผู้ถูกกล่าวหาเองฝ่ายเดียว ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อ ป.ป.ช.ผู้ร้อง โดยปกปิดข้อเที่จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ก.
ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหา อุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา โดยยกโทษจำคุกที่รอการลงโทษ ให้คงไว้แต่เพียงโทษปรับสถานเดียวนั้น องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เสียงข้างมาก เห็นว่า ทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงต่อ ป.ป.ช.ผู้ร้อง มีจำนวนมาก เมื่อเปรียบเทียบกับทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่แสดงต่อผู้ร้องเป็นจำนวนเล็กน้อย อีกทั้งเป็นของคู่สมรสเป็รส่วนมาก พฤติการณ์ดังกล่าวจึงมีเหตุสมควรลงโทษสถานเบา อุทธรณ์ของนางชญาดา ผู้ถูกกล่าวหาฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกโทษจำคุก ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 55 (ถ้าโทษจำคุกที่ผู้กระทำความผิดจะต้องรับมีกำหนดระยะเวลาเพียง 3 เดือนหรือน้อยกว่า และมีโทษปรับด้วย ศาลจะกำหนดโทษจำคุกให้น้อยลง หรือจะยกโทษจำคุกเสีย คงให้ปรับแต่อย่างเดียวก็ได้)
นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ ยังห้ามนางชญาดา ผู้ถูกกล่าวหา ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 2557 ซึ่งเป็นวันที่นางชญาดาพ้นจากตำแหน่งสุดท้ายมาแล้ว และคงโทษปรับ 4,000 บาท ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 119
อ่านประกอบ :
รับสารภาพ!คุก1 เดือน รอลงโทษ1 ปี 'ชญาดา'เมีย 'พลภูมิ'ส.ส.เพื่อไทย ยื่นบัญชีฯเท็จ
‘พลภูมิ’รอด!ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีทรัพย์สิน ชี้ ป.ป.ช.ส่งตัวไม่ทันใน 5 ปี-ขาดอายุความ
โดนทั้งผัว-เมีย! ป.ป.ช.ฟัน‘ชญาดา’ ภรรยา'พลภูมิ'ส.ส.เพื่อไทย คดีบัญชีทรัพย์สิน
น้อมรับคำตัดสินศาล! 'พลภูมิ’ โพสต์แจงคดีปกปิดยอดใช้บัตรเครดิต2.2แสน เงินฝาก1.6หมื่น
'พลภูมิ'สารภาพปกปิดทรัพย์สิน! ขอความเมตตาศาลฎีกาฯ-ผู้พิพากษามาไม่ครบเลื่อนไต่สวน
เปิดทรัพย์สิน‘พลภูมิ’ส.ส.เพื่อไทย 326.9 ล. เมียรวยที่ดิน 296.5 ล. - สารภาพยื่นเท็จ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/