กกต.ตีตกอีก 3 ราย ผู้สมัคร ส.ส.ประชาชาติ-พลังปวงชนไทย ปมถือครองหุ้นสื่อ เหตุไม่ได้ทำสื่อจริง-สถานะร้างไปก่อนแล้ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยของ กกต. ที่ 230/2562 กรณีภายหลังประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. ได้รับรายงานกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายธนวัฒน์ ศรีสุข ผู้สมัคร ส.ส.เขต 18 กทม. พรรคประชาชาติ นายนุกูล คงชุบ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 จ.ชลบุรี พรรคพลังปวงชนไทย นายอนุชา สิงหะดี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จ.กาฬสินธุ์ พรรคพลังปวงชนไทย กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) และมาตรา 151 วรรคหนึ่ง มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ และรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
นายธนวัฒน์ ศรีสุข ถูกกล่าวหาว่า มีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัท ทาเลนท์ อันลิมิเต็ดเอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด จำนวน 32,000 หุ้น โดยมีวัตถุประสงค์ของบริษัท ประกอบกิจการให้บริการด้านความบันเทิง ดนตรี และมหรสพ รับจัดหานักร้อง นักแสดง นักดนตรี เพื่อแสดงในงานบันเทิงต่าง ๆ แสดงโชว์เพื่อความบันเทิง และนันทนาการ และรับงานอีเวนท์ทุกชนิด จากการไต่สวนพบว่า ตามแบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ (สสช.1) แจ้งประกอบกิจการให้บริการด้านความบันเทิง ดนตรี และมหรสพ และตามแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) รอบปี 2559-2560 มีรายได้จากกิจกรรมด้านความบันเทิงเหล่านั้น ไม่มีลักษณะเป็นกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนแต่อย่างใด พยานหลักฐานจึงยังฟังไม่ได้ว่ากระทำการฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา
นายนุกูล คงชุบ ถูกกล่าวหาว่า มีชื่อเป็นกรรมการของบริษัท เวล โปรเกรส จำกัด โดยวัตถุประสงค์ของบริษัทระบุว่า ประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง บริการให้เช่าเวลาออกอากาศ รับบริหารและจัดทำรายการ ผลิตสื่อโฆษณาและบริการโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียง อย่างไรก็ดีนายนุกูล เป็นกรรมการของบริษัท แต่ไม่ได้ถือหุ้นในบริษัท และบริษัทขาดส่งงบการเงินตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1273/3 บริษัทสิ้นสภาพนิติบุคคลตั้งแต่เมื่อนายทะเบียนขีดชื่อออก อันเป็นช่วงเวลาก่อนที่นายนุกูลจะสมัครรับเลือกตั้ง พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่ากระทำการฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา
นายอนุชา สิงหะดี ถูกกล่าวหาว่า มีชื่อเป็นกรรมการของบริษัท ตะวันออกโมเดิร์นมีเดีย พลัส จำกัด ถือหุ้นในบริษัท จำนวน 8,990 หุ้น จากจำนวน 10,000 หุ้น โดยมีวัตถุประสงค์ของบริษัทระบุว่า ประกอบกิจการผลิตโฆษณาตามสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ การผลิตสื่อโฆษณาผ่านทางคลื่นวิทยุกระจายเสียงต่าง ๆ จากการไต่สวนพบว่าบริษัทไม่เคยส่งงบการเงิน พบแต่การส่งรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.1) ตอนจัดตั้งบริษัทครั้งเดียว และบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทร้าง นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียนไป 24 ก.ค. 2555 ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1273/3 บริษัทสิ้นสภาพนิติบุคคลตั้งแต่นายทะเบียนขีดชื่อออก อันเป็นช่วงเวลาก่อนที่นายอนุชาสมัคร พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่ากระทำการฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา
อ่านประกอบ :
กกต.ตีตก 3 ผู้สมัคร ส.ส.เสรีรวมไทยถูกร้องถือหุ้นสื่อ-อีก 3 รายอยู่ในชั้นศาล รธน.
เปิดตัวธุรกิจ‘ดามพ์ เผด็จดัสกร’ถูกศาล รธน.สอบถือหุ้นสื่อ-กกต.ตีตก 4 ผู้สมัครเพื่อชาติ
'ผู้กองปูเค็ม'ยื่น กกต.สอบ 32 ผู้สมัคร ส.ส. 6 พรรค ถือครองหุ้นสื่อ
ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่! ศาล รธน.รับคำร้อง 32 ส.ส.ฝ่ายค้านปมหุ้นสื่อ-ตีตก 1 ราย
รอด 9 ราย! ศาล รธน.รับคำร้อง 32 ส.ส. ปมถือหุ้นสื่อ-ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/