รมว.พลังงาน ชี้สัญญาณบวกราคาน้ำมันตลาดโลกแนวโน้มลดลง หลังวิกฤตซาอุดิอาระเบียคลี่คลาย เชื่อส่งผลดีต่อทิศทางราคาขายปลีกในประเทศ และลดภาระกองทุนน้ำมันในอนาคต
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลงขณะนี้ว่า นับเป็นสัญญาณที่ดีมากต่อราคาน้ำมันของประเทศไทยในระยะต่อไป หลังจากที่กระทรวงพลังงานประเทศซาอุดิอาระเบีย ประกาศกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้ 11.3 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปลายเดือนกันยายนนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ ช่วยแก้ปัญหาปริมาณที่ตึงตัวและลดแรงกดดันด้านราคาให้มีทิศทางที่ดีขึ้น
“ถ้าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงเช่นนี้ คาดว่าในระยะต่อไปราคาน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลของประเทศไทยก็จะเริ่มปรับตัวลดลงอย่างมีเสถียรภาพ และช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันที่เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนในขณะนี้ และจะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจไทยด้วย”
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาดูแลราคาน้ำมันภายในประเทศช่วงที่เกิดวิกฤตแหล่งผลิตประเทศซาอุดิอาระเบียถูกโดรนโจมตีเสียหาย จนทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบพุ่งสูงขึ้น กบง.จึงปรับลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันในกลุ่มเบนซินลง 1 บาทต่อลิตรและกลุ่มดีเซลลง 0.60 บาทต่อลิตร
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า มาตรการช่วยเหลือของ กบง.ที่ผ่านมา ถือว่าทันต่อสถานการณ์และช่วยลดภาระค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยกำลังประสบปัญหาอุทกภัย รัฐบาลนี้พร้อมจะดำเนินการทุกวิถีทางในการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าทิศทางของราคาน้ำมันโลกเริ่มปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน ก็จะเป็นการช่วยลดภาระของกองทุนน้ำมันได้ต่อไปในอนาคต แต่เพื่อความไม่ประมาททางกระทรวงพลังงานยังจำเป็นต้องมอนิเตอร์สถานการณ์น้ำมันโลกอย่างใกล้ชิด