ที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีมติส่งเรื่องให้ คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาลดคุณสมบัติระยะเวลาดำรงตำแหน่งของตุลาการศาล ปค.สูงสุด เพราะผู้มีคุณสมบัติครบไม่ยอมสมัคร
ผลการประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด กรณีคัดเลือกตุลาการในศาลปกครองสูงสุดไปดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
นายประวิตร บุญเทียม ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ในฐานะโฆษกศาลปกครอง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562 ได้มีการประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด เพื่อคัดเลือกตุลาการในศาลปกครองสูงสุดไปดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมาตรา 200 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด จำนวน 2 คน โดยรัฐธรรมนูญกำหนดว่าต้องเป็นตุลาการในศาลปกครองสูงสุดซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตุลาการศาลปกครองสูงสุดมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งในปัจจุบันมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้รับคัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดอยู่แล้วจำนวน 1 คน จึงต้องคัดเลือกเพิ่มอีก 1 คน แต่ในการประชุมปรากฏว่า ไม่มีตุลาการในศาลปกครองสูงสุดที่มีสิทธิได้รับคัดเลือก ให้ความยินยอมที่จะไปทำหน้าที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมจึงยังไม่สามารถคัดเลือกผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้
ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด จึงมีมติให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งตุลาการในศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งตุลาการในศาลปกครองสูงสุดต่ำกว่า 5 ปีมีสิทธิได้รับการคัดเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้
ทั้งนี้ มาตรา 200 วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้ในกรณีจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ให้คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจประกาศลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปีได้ แต่จะลดลงเหลือน้อยกว่า 2 ปีมิได้ โดยคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจัดตั้งขึ้น และมีหน้าที่ตามมาตรา 11 มาตรา 80 และมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ประกอบด้วยประธานศาลฎีกา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานศาลปกครองสูงสุด และบุคคลที่องค์กรอิสระแต่งตั้ง
หากคณะกรรมการสรรหาประกาศลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งตุลาการในศาลปกครองสูงสุดแล้ว ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดจะได้ดำเนินการคัดเลือกตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่จะไปดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อไป