
สธ.เผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งที่ 60 จาก 55,876 คดี น้ำหนักรวมหีบห่อ 44 ตัน มากที่สุดเป็น ยาบ้า ไอซ์ คีตามีน ไซบูทรามีนกว่า เฮโรอีน คลอรัลไฮเดรต และฝิ่น ส่วนแผนฟื้นฟู บำบัดรักษาแล้วกว่า 2.47 แสนคน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งที่ 60 โดยมี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย ภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพอากาศ กองทัพเรือ กองทัพบก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด กรมศุลกากร กรมประชาสัมพันธ์ และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายพัฒนา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายดำเนินการเผาทำลายยาเสพติดของกลางอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 60 ภายใต้ปฏิบัติการ “Never Stop to Burn ทำลาย มั่นใจ ไม่เวียนขาย ไปทำลายสังคม” มียาเสพติดของกลางที่ผ่านการตรวจรับและอนุมัติให้เผาทำลายจาก 55,876 คดี น้ำหนักรวมหีบห่อ 43,643 กิโลกรัม 203 กรัม เป็นน้ำหนักยาเสพติด 34,655 กิโลกรัม 680 กรัม 416 มิลลิกรัม มากที่สุดเป็น เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) กว่า 24,095 กิโลกรัม รองลงมา เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) กว่า 7,208 กิโลกรัม คีตามีน กว่า 1,642 กิโลกรัม ไซบูทรามีนกว่า 554 กิโลกรัม เฮโรอีน กว่า 478 กิโลกรัม คลอรัลไฮเดรต กว่า 306 กิโลกรัม ฝิ่นกว่า 160 กิโลกรัม และอื่นๆ ใช้เตาเผาขยะอันตรายด้วยเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ประกอบด้วย เตาเผาชุดที่ 1 แบบหมุน (Rotary Kiln) อุณหภูมิมากกว่า 850 องศาเซลเซียส และเตาเผาซ้ำชุดที่ 2 แบบทรงกลมตั้ง อุณหภูมิมากกว่า 1,200 องศาเซลเซียส เพื่อให้มั่นใจว่าสารประกอบอินทรีย์อันตรายที่เกิดขึ้นถูกทำลายไปมากกว่า 99.99% ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีการตรวจสอบควบคุมสารมลพิษจากการเผาทำลายทุก 3 ชั่วโมง โดยจะทำการเผาต่อเนื่อง 36 – 38 ชั่วโมง
นายพัฒนา กล่าวต่อว่า นอกจากภารกิจการเก็บรักษา การทำลาย การนำไปใช้ประโยชน์ และการรายงานยาเสพติด ซึ่งมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้รับผิดชอบหลักแล้ว กระทรวงสาธารณสุขยังเป็นหน่วยงานหลัก ที่รับผิดชอบด้านการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด โดยดำเนินการต่อเนื่องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในปีงบประมาณ 2568 ที่ผ่านมา ได้นำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาทั้งรูปแบบผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน การบำบัดโดยชุมชนเป็นฐาน (CBTx) มินิธัญญารักษ์ สถานฟื้นฟูภายใต้สถานพยาบาล และการต้องโทษ รวมกว่า 247,000 คน ได้รับการบำบัดครบกระบวนการและกลับคืนสู่สังคมแล้ว 150,000 คน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา