
ปปท. เขต 6 ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว กก.3 บก.ทท.2 จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับปลอมแปลงโฉนดที่ดิน และ น.ส.3 ก. ของสำนักงานที่ดินจังหวัดสุโขทัย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. , พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. , นายณรงวิทย์ สุวรรณสิทธิ์ ผอ.ป.ป.ท. เขต 6 และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผอ.กอท. มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ปปท. เขต 6 นำโดย ร.ต.อ.อัศวิน เบญจโอฬาร นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ พันจ่าอากาศโทสมภพ แพงมะจริน ตำแหน่ง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว กก.3 บก.ทท.2 จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ นายทัศนัย แย้มบาง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 หมายจับ ที่ 108/2566 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2566 หนีความผิดไปบวชเป็นพระ ที่วัดโกล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
หมายจับ นายทัศนัย แย้มบาง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 หมายจับ ที่ 108/2566 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2566 หนีความผิดไปบวชเป็นพระ ที่วัดโกล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ โดยนายทัศนัย แย้มบาง เป็นชาวบ้านที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สุโขทัย โดยถูกจับกุมในข้อกล่าวหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดทุจริตในภาครัฐ ในการปลอมแปลงโฉนดที่ดิน และ น.ส.3 ก. ของสำนักงานที่ดินจังหวัดสุโขทัย สาขาศรีสัชนาลัย โดยมีเจตนา เพื่อนำโฉนดที่ดินปลอมดังกล่าวไปใช้แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบในการนำไปฉ้อโกงหรือหลอกลวงบุคคลอื่นหรือประชาชนหรือผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่าเป็นโฉนดที่ดิน และ น.ส.3 ก อันแท้จริง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา สำหรับการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาจับได้ที่พื้นที่ใน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย และได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหา ส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับพฤติการณ์แห่งคดี โดยมีตัวการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดสำนักงานที่ดินจังหวัดสุโขทัย สาขาศรีสัชนาลัย ซึ่งปัจจุบันถูกไล่ออกจากราชการและมีหมายจับอยู่ในระหว่างหลบหนีการจับกุมเป็นผู้วางแผนชักนำจำเลยทั้ง 3 ราย ให้เอาเอกสารและชื่อเป็นบัญชีม้าในการปลอมแปลงโฉนดที่ดิน และ น.ส.3 ก. จากนั้นก็นำโฉนดที่ดิน และ น.ส.3 ก. ของปลอมที่ทำขึ้นไปขอกู้เงินจากไฟแนนซ์ลิสซิ่ง สินเชื่อเงินด่วนของเอกชนภายใน จ.สุโขทัย และ จ.อุตรดิตถ์ มูลค่าความเสียหายประมาณ 4-5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบบัญชีม้าที่ใช้ในการออกโฉนดที่ดิน และ น.ส.3 ก อีกประมาณ 40 ราย ซึ่งได้มีการออกหมายเรียกผู้ที่อยู่ในบัญชีม้า ซึ่งก็ได้มารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งมีทั้งถูกหลอกและเต็มใจมาร่วมกระทำผิด ซึ่งอยู่ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีต่อไปอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และความผิดดังกล่าว เกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา