
‘สภาผู้บริโภค’ เสนอ ‘อนุทิน-ภูมิใจไทย’ เดินหน้านโยบาย ‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ชี้คุ้มค่า-ลดภาระประชาชน-ช่วยลดมลพิษ พร้อมเสนอรัฐเก็บ ‘ภาษีล้อเลื่อน’ สมทบ
........................................
จากกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยโครงการจะต้องสามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่ใช่การขาดทุนแล้วจะต้องใช้งบประมาณแผ่นดินอุดหนุนทุกปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวินัยการคลังได้ ดังนั้น เรื่องนี้จึงต้องพิจารณาดูก่อน นั้น (อ่านประกอบ : ‘อนุทิน’ ปรับคนละครึ่งรัฐจ่าย 60% นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ขอดูก่อน)
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทเริ่มต้นที่รถไฟฟ้าสายสีแดงเกิดขึ้นในช่วงที่พรรคภูมิใจไทยดูแลกระทรวงคมนาคม ซึ่งเดิมคาดว่าจะใช้งบ 3,000 ล้านบาท แต่ปรากฏกว่าใช้งบประมาณเพียง 200 ล้านบาทเท่านั้น และยังสามารถช่วยลดขาดทุนให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ด้วย ดังนั้น รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จึงเป็นโครงการที่มีความคุ้มค่าในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย สนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ ช่วยลดมลพิษและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
น.ส.สารี ระบุด้วยว่า ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งในปี 2566 พรรคภูมิใจไทยเองเสนอนโยบายตั๋วรถไฟฟ้าไม่เกิน 40 บาทต่อวันกี่เที่ยวก็ได้ เป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงหลัก ดังนั้น การสานต่อโครงการนี้ จึงเสมือนการสานต่อนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยได้หาเสียงไว้
“หากงบประมาณในการสนับสนุนรถไฟฟ้า 20 บาทยังเป็นปัญหา สภาผู้บริโภคได้เสนอทางเลือกสำหรับการหางบประมาณ เช่น ภาษีล้อเลื่อน ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดเก็บได้ปีละ 16,000 ล้านบาท หรือการจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่จอดรถในเมือง (Congestion Charge) เป็นต้น ซึ่งมองว่านอกจากจะช่วยให้ประชาชนหันมาใช้ระบบราง และช่วยลดปัญหารถติด และปัญหามลพิษ PM 2.5 ได้ด้วย” น.ส.สารี กล่าว
ด้าน นายชาลี เจริญลาภนพรัตน์ อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกวันนี้ มีการเรียกเก็บค่าแรกเข้าที่ซ้ำซ้อน ทำให้การเดินทางโดยรถไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายสูง ถ้ายกเลิกเก็บค่าแรกเข้าจะทำให้ค่าโดยสารถูกลง ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายสามารถทำได้ และมีความยั่งยืนโดยไม่เป็นภาระงบประมาณ โดยการเจรจาลดค่าชดเชยกับเอกชน เพราะเมื่อลดราคาลดลง ผู้โดยสารมากขึ้น เอกชนก็มีรายได้มากขึ้น โดยที่รัฐไม่จำเป็นต้องจ่ายชดเชยในส่วนที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสามารถใช้เงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ หรือกองทุนด้านสิ่งแวดล้อม เข้ามาสนับสนุนโครงการได้ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการลดการใช้พลังงานฟอสซิล สนับสนุนให้ประชาชนเดินทางโดยรถสาธารณะ เพื่อลดผลกระทบต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม
“สภาผู้บริโภคได้ขับเคลื่อนโครงการขนส่งสาธารณะที่ทุกคนขึ้นได้ทุกวัน ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และผลักดันให้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลไม่เฉพาะแค่ในกรุงเทพฯ ในต่างจังหวัดได้ผลักดันจนประสบความสำเร็จแล้วหลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต กาญจนบุรี ส่วนอัตราค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ได้ยึดตามคำแนะนำของธนาคารโลกที่ระบุว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของค่าแรงขั้นต่ำ” นายชาลี กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา