
ผลวิจัยทางการแพทย์ยืนยัน 'บุหรี่ไฟฟ้า' เพิ่มความเสี่ยงเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด รุนแรงถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันและเสียชีวิตได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 นพ.ชยนันท์ สิทธิบุศย์ รักษาการนายแพทย์ทรงคุณวุฒิฯ และผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กล่าวว่า ละอองไอจากบุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีหลายชนิด อาทิ นิโคติน โพรพิลีนไกลคอล กลีเซอรีน สารอัลดีไฮด์และสารแต่งกลิ่น ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หัวใจบีบตัวแรงขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น และกระตุ้นการทำงานของเกล็ดเลือด
ส่งผลให้หลอดเลือดแข็งตัว การไหลเวียนของเลือดลดลง เสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเพิ่มขึ้นถึง 1.44 เท่า และหากสูบร่วมกับบุหรี่มวน ความเสี่ยงยิ่งสูงขึ้นกว่า 4 เท่า ซึ่งผลกระทบเหล่านี้อาจรุนแรงถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันและเสียชีวิตได้
นพ.ชยนันท์ กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรค ขอเตือนประชาชนและเยาวชนให้ตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อปกป้องสุขภาพ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และป้องกันการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการเลิกสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า สามารถเข้ารับบริการเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าได้ที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข หรือโทรสายด่วนขอคำปรึกษาเพื่อการเลิกบุหรี่ ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1600 และหากพบเห็นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเบาะแสเพื่อดำเนินคดีผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แหล่งข้อมูล
- Ashraf MT, Shaikh A, Khan MKS, Uddin N, Kashif MAB, Rizvi SHA, Khalid H, Sam SJ, Sohail A. Association between e-cigarette use and myocardial infarction: a systematic review and meta-analysis. Egypt Heart J. 2023 Nov 30;75(1):97. doi: 10.1186/s43044-023-00426-6. PMID: 38032522; PMCID: PMC10689622.
- Nagy S, Abdool A, Rocco O, Shirazi N, Israilov D, Atiquzzaman N, Amini K, Kesselman MM. The Impacts of Vaping on the Cardiovascular System: A Systematic Review of Case Reports. Cureus. 2025 Jan 21;17(1):e77780. doi: 10.7759/cureus.77780. PMID: 39981460; PMCID: PMC11841693.
- Ahmed H, Ismayl M, Palicherla A, May J, Goldsweig AM, Thirumalareddy J. A case report of vaping-associated sudden cardiac arrest in a young healthy patient. Ann Med Surg (Lond). 2024;86:3042–6. doi:10.1097/MS9.0000000000001907

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา