
ก.ต.เคาะ 'มัณทรี อุชชิน' นั่งปธ.ศาลอุทธรณ์หญิง 'สุรินทร์ ชลพัฒนา' ปธ.อม.คุมคดีอาญานักการเมือง 'ฉัตรชัย' เจ้าของสำนวนคดีชั้น14 ขึ้นชั้น นั่งปธ.แผนกคดีพานิชย์และเศรษฐกิจฯ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2568 ที่ห้องประชุมราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ชั้น 3 อาคารศาลยุติธรรรม ถนนราชดำเนินใน
นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ครั้งที่ 18/2568
โดยมีวาระสำคัญคือที่ประชุม ก.ต.เห็นชอบบัญชีโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตุลาการ ในวาระโยกย้ายแต่งตั้งบัญชี 2 ชั้น 4 สับเปลี่ยนตำแหน่งจำนวน 66 บัญชีรายชื่อ
มีรายชื่อผู้พิพากษาชื่อดังที่น่าสนใจเเละดำรงตำเเหน่งสำคัญ ดังนี้
1.นางมัณทรี อุชชิน รองประธานศาลฎีกา เป็นประธานศาลอุทธรณ์
2.นายไชยยศ วรนันท์ศิริประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาในศาลฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกา
3.นายชวลิต อิศรเดชประธานแผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกาฯ ในศาลฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกา
4.นายวีระพงศ์ สุดาวงศ์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ขึ้น เป็นรองประธานศาลฎีกา
5.นายเดชา อัชรีวงศ์ไพศาล ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 2 เป็นรองประธานศาลฎีกา
6.นายวิธูร คลองมีคุณ หัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกา
7.นายสุวิทย์ พรพานิชประธานศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นรองประธานศาลฎีกา
8.นายสุรินทร์ ชลพัฒนา ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 4 เป็นประธานเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา (อม.)
9.นายฉัตรชัย ไทรโชต หัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นประธานเเผนกคดีพานิชย์เเละเศรษฐกิจในศาลฎีกา
10.นายกีรติ วรพุทธพงศ์ หัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
11.นายจุมพล ชูวงษ์ หัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นประธานศาลอุทธรณ์ภาค 1
12.นายอดุลย์ ขันทอง ผู้พิพากษาศาลฎีกาขึ้น เป็นหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
13นายสุชาติ สุนทรีเกษม อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
14.นายรุ่งศักดิ์ วงศ์กระสัน ผู้พิพากษาศาลฎีกา เป็นหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
15.นายเลิศพงศ์ อินทรหอม อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
16.นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล ผู้พิพากษาศาลฎีกา เป็นหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่น่าสนใจที่โดดเด่นในการการเเต่งตั้งบัญชี้นี้ ได้แก่
นางมัณทรี อุชชิน ว่าที่ประธานศาลอุทธรณ์ ซึ่งเป็นตำเเหน่งที่มีความสำคัญเเละอาวุโสรองจากประธานศาลฎีกา มีหน้าที่กำกับดูแลการบริหารงานในศาลอุทธรณ์ทุกด้าน ทั้งด้านคดีและการบริหารงานบุคคล นอกจากนี้ยังมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายพิเศษบัญญัติไว้ เช่น การพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ การเลือกตั้ง และคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและค้ามนุษย์ ทั้งยังเป็นอุปนายกคนที่ 1 โดยตำแหน่ง ของเนติบัณฑิตยสภา นางมัณทรี จบระดับมัธยม โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ,ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับสอง)เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 34 ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาวิทยาลัยปารีส 1 (ปองเตออง ซอร์บอร์น) เกียรตินิยมดี (ทุนสำนักงานศาลยุติธรรม) ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 5 เเละภาค 7 ,รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ,ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 6 ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประทศ เเละรองประธานศาลฎีกา เเละยังได้รับเลือกเป็นกรรมการตุลาการผู้ทรงคุณวุฒิในชั้นศาลฎีกา จนถึงปัจจุบัน
นายวีระพงศ์ สุดาวงศ์ ว่าที่รองประธานศาลฎีกาซึ่งปัจจุบันเป็นประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ซึ่งมีอำนาจบริหารงาน พิจารณาคดีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อยู่ในเขตอำนาจศาลทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาในพื้นที่ภาค5 โดยมีสำนักงานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ในภาคเหนือเเละเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งนายวีระพงศ์คนนี้มีคิวที่จะดำรงตำเเหน่งประธานศาลฎีกาต่อจากนายอดิศักดิ์ ที่ก.ต.พึ่งมีมติผ่านขึ้นเป็นประมุขตุลาการในวาระ 1 ก.ย.2568 โดยนายวีระพงศ์เป็นบัญชีคิวอาวุโสที่จะถูกเสนอให้ดำรงตำเเหน่ง ในช่วง 1 ก.ย.2569 -30 ต.ค.2570
นายสุรินทร์ ชลพัฒนา ว่าที่ประธานเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ในศาลฎีกา มีบทบาทเด่นสมัยเป็นเลขาธิการประธานศาลฎีกา ในยุคนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ เป็นคีย์เเมนขับเคลื่อน นโยบายที่เกี่ยวกับสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องหาจำเลย เรียกว่าความยุติธรรมไม่มีวันหยุด ที่ส่งผลให้สามารถมีการยื่นขอประกันตัวได้ทุกวันทุกเวลา มีความสามารถการบริหารจนเป็นที่ไว้ใจ ในช่วงที่ดำรงตำเเหน่งประธานศาลอุทธรณ์ภาค 4 ซึ่งเป็นพื้นที่อีสานตอนบนครอบคลุมพื้นที่ 18 ศาล 12 จังหวัดก็มีบทบาทสำคัญ ในการพิจารณาพิพากษาคดีที่คู่ความอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อยู่ในเขตอำนาจศาลทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โดยมีสำนักงานอยู่ที่ขอนแก่นซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ในภาคอีสาน การที่ได้มาเป็นประธานเเผนกคดีอาญานักการเมือง ที่มีบทบาทเด่นที่สุดในเเผนกคดีของศาลฎีกา ที่มีอำนาจพิจารณาคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น นายกรัฐมนตรี,รัฐมนตรี,ส.ส. ส.ว.คดีที่จะเข้ามาเกี่ยวกับการทุจริตฯที่มาจาก ปปช.หรือร่ำรวยผิดปกติ ตัวอย่างคดีดังๆแย่สงเช่น คดีทุจริตจำนำข้าว,คดีระบายข้าวจีทูจี
คดีทุจริตก่อสร้างโรงพัก ,คดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอล เเละล่าสุดคือคดีไต่สวนการบังคับใช้โทษ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนายสุรินทร์มีความเหมาะสมทั้งในเรื่องอาวุโสความสามารถประสบการณ์เเละความซื่อสัตย์ยุติธรรม นายสุรินทร์ จบนิติศาสตรบัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนติบัณฑิตไทย ปริญญาโท Master ofi Laws ที่ Southern Methodist University, Texas เเละระดับปริญญาโทอีกที่ Master ofi Comparative Law ที่ University, Washington D.C.
นายฉัตรชัย ไทรโชต ว่าที่ประธานเเผนกคดีพานิชย์เเละเศรษฐกิจในศาลฎีกา ซึ่งมีบาทบาทเป็นที่รู้จักเมื่อครี้งนั่งอธิบดีศาลเเพ่งในเรื่องการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรม ของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมรวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพิจารณาคดีอำนวยความยุติธรรมให้แก่คู่ความ เเละยังได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรามหรือ กบศ.เเต่มามีบทบาทที่โดดเด่นที่สุดคือเป็นเจ้าของสำนวนคดีบังคับโทษชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตรในศาลฎีกาเดผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ซึ่งถูกชื่นชมกันถึงการคุมเข้มกระบวนการไต่สวนได้มีประสิทธิภาพในการค้นหาความจริงให้เป็นที่ปรากฎ เเละสร้างความยุติธรรมคดีที่จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ในคดีที่ไม่เคยมีการไต่สวนในลักษณะนี้มาก่อนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการโยกย้ายเเต่งตั้งตุลาการในวันนี้ เป็นตุลาการชั้น 4 ซึ่งเป็นระดับตั้งเเต่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ขึ้นไปจนถึงประธานศาลอุทธรณ์ ซึ่งวันนี้ ก.ต.พิจารณารายชื่อผู้พิพากษาทั้ง 66 รายเป็นบัญชีที่ 2 ต่อจากบัญชี 1 ที่ได้ผ่านนายนายอดิศักดิ์ ตันติวงศ์ ว่าที่ประธานศาลฎีกาคนที่ 51 ภายหลังผ่านมติ ก.ต.จะมีการนำบัญชีรายชื่อเสนอโปรดฯ ตามขั้นตอนเพื่อมีผลในวันที่ 1 ต.ค.2568
สามารถดูผลการประชุม ก.ต. ครั้งที่ 18/2568 ฉบับเต็มได้ตามลิงก์นี้ https://ojc.coj.go.th/th/content/category/detail/id/8/cid/14588/iid/498986

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา