
คณะรวมพลังแผ่นดินฯ หารือตำรวจนครบาล จัดเวทีชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย. 2568
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ นายพิชิต ไชยมงคล และคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เข้าพบตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) หารือข้อกฎหมาย พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 นายสบโชค ณ ศรีโต ผอ.เขตราชเทวี ตำรวจ สน.พญาไท ชุดสืบสวนนครบาล 1 กรณีจัดชุมนุมใหญ่ 28 มิ.ย. หลังมองว่าไม่เข้าข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 45 นาที
นายนิติธร กล่าวว่า ปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรุงเทพมหานคร ในส่วนของขั้นตอนตามกฎหมาย การบริหารพื้นที่ความปลอดภัย สำนักงานเขตทุกฝ่ายเตรียมจุดชุมนุม โดยตั้งเวทีหันหน้าออกด้านสามเหลี่ยมดินแดง ดันหลังเวทีคืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวทีตั้งอยู่ฟุตปาธขอบด้านนอก ลำโพงหันหลังให้โรงพยาบาลทั้งหมด เริ่มตั้งเวทีคืน 27 มิ.ย. ขออนุญาตติดตั้งเวที จอทีวี 2 ข้าง ไม่ให้กระทบครึ่งหลังของอนุสาวรีย์ ไม่ให้กระทบพื้นผิวการจราจร และไม่เคลื่อนย้าย
"การชุมนุมจะไม่ค้างคืน เริ่มต้นเวลา 16.00-21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม บริเวณเวทีตั้งหันหน้าไปทางดินแดง ภารกิจของคณะ เมื่อเช้าประชุมการเปิดบัญชี อยู่ระหว่างดำเนินการ ภายหลังจากนี้ ประชุมออกแบบกิจกรรมบนเวที และในวันที่ 24 มิ.ย. 2568 แถลงข่าวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เวลา 14.00 น. เกี่ยวกับมาตรการรัฐ และมาตรการของเราในการชุมนุมต่อไป" นายนิติธร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการจัดจุดตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ทำจุดคัดกรอง 4 ช่องทาง ตั้งรั้วช่องทางฉุกเฉินให้รถพยาบาลเข้ามา อีกทั้งที่ผ่านมาการแสดงพลังในกัมพูชามีคนมาถึง 150,000 คน ตนเองเชื่อว่าคนไทยจะมาแสดงพลังจำนวนมาก
“เราไม่อยากอายกัมพูชา ตำรวจไล่จับคนปกป้องอธิปไตยไทยนั้นขายขี้หน้า ส่วนระบบเสียงไม่กระทบโรงพยาบาล เราไม่ขนคนแม้แต่เพียงคนเดียว แต่เป็นการสื่อไปพี่น้องประชาชน นี่คือการรวมพลังแผ่นดินป้องป้องอธิปไตย เชื่อว่าประชาชนจะมามืดฟ้ามัวดิน ฝ่ายรัฐถ้าไม่ร่วมมืออย่าขัดขวาง หากกำลังนอกราชอาณาจักรมาป่วนนั้น รัฐไม่ยอมไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หากมีเกิดขึ้นจะไปทำเนียบรัฐบาล” นายจตุพร กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับ ผอ.เขตราชทีวี ดำเนินการดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสำรวจพื้นที่ร่วมกันกับแกนนำกล่าวถึงรูปแบบและลงรายละเอียดกิจกรรม เจ้าหน้าที่รับข้อมูลจัดทำแผนดูแลพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม การชุมนุมเป็นสิทธิ์ของการประชาชน แต่ต้องมีการแจ้งการชุมนุมภายใน 24 ชั่วโมง พื้นที่การชุมนุมเป็นพื้นที่สาธารณะ สามารถใช้สิทธิ์ได้ไม่เกินส่วนที่กำหนด ขอให้แจ้งการชุมนุมบริเวณดังกล่าว ผู้ชุมนุมอยู่บนทางเท้า บช.น. รับทราบเจตนารมณ์ดูแลไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ขอให้กระทบการจราจรน้อยที่สุดและต้องมีความปลอดภัยกับผู้ชุมนุมโดยรอบ
@ ผบ.ตร. เผยยังไม่พบมือที่ 3 ป่วนม็อบ แต่จัดแผน-กำลังเฝ้าระวังแล้ว
ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมรับมือการรวมกลุ่มชุมนุมของกลุ่มการเมืองต่างๆ ว่า ได้มีการประชุมทุกวัน สิ่งสำคัญคือการข่าว การเจรจา และการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม ซึ่งทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ส่วนการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและผู้ใช้รถใช้ถนนนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความห่วงใยและต้องตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าอาจมีบุคคลไม่หวังดีหรือกลุ่มมือที่สามเข้ามาก่อเหตุ ดังนั้นการข่าวจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งจากภายใน ภายนอก และตำรวจภูธรภาคต่างๆ ต้องสืบสวนหาข่าวเพื่อเตรียมความพร้อมด้านกำลังพลและอุปกรณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตำรวจจะดูแลความปลอดภัยทั้งผู้ชุมนุมและประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการข่าวที่แน่ชัดว่าจะมีการระดมคนจำนวนมากมาร่วมชุมนุม มีเพียงการโพสต์ข้อความเชิญชวนตามปกติในโซเชียลมีเดีย ตำรวจเข้าใจดีว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การปฏิบัติก็มีกฎหมายรองรับเช่นกัน ประชาชนและตำรวจให้ความร่วมมือกัน ความสงบเรียบร้อยก็จะเกิดขึ้น และพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชน โดยในส่วนของการประเมินจำนวนผู้ชุมนุมนั้นยังไม่มีความชัดเจน คาดว่าจะทราบผลการวิเคราะห์ในช่วงวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ตำรวจจัดกำลังพลและเตรียมแผนเผชิญเหตุได้อย่างเรียบร้อย ขณะนี้มีการประสานงานและขออนุญาตจัดการชุมนุมอย่างถูกต้องแล้ว โดยเบื้องต้นอนุญาตให้จัดได้ตั้งแต่เวลา 16.00 - 21.00 น. และมีการยืนยันการชุมนุมในพื้นที่เดียวคือที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับผู้จัดการชุมนุมในพื้นที่ที่มีการจำกัดและดูแลพิเศษเรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีรายงานข่าวยืนยันว่าจะมีการปักหลักค้างคืน ส่วนการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นของการชุมนุมในระยะยาวหรือไม่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลมาเป็นข้อสันนิษฐานและได้เตรียมแผนปฏิบัติการหรือแผนเผชิญเหตุไว้แล้ว
"ผมว่าทุกคนรักประเทศและไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายอะไร การแสดงออกซึ่งสัญลักษณ์สิทธิตามรัฐธรรมนูญโดยชอบสามารถทำได้ การชุมนุมนี้ไม่ต้องจับตาบุคคลใดเป็นพิเศษ แต่มองว่าเป็นปรากฏการณ์ที่มีการรวมตัวกัน และตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แกนนำหลายท่านเป็นผู้ใหญ่ในวงการการเมือง เชื่อว่าสิ่งที่ผ่านมาในอดีตก็เป็นบทเรียนให้กับผู้ชุมนุมว่าหากทำอะไรไป จะเกิดอะไรต่อบ้านเมือง ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศว่าจะส่งผลต่อความรุนแรงในการชุมนุมหรือไม่นั้นในเรื่องของข้อพิพาททางชายแดน ได้กำชับให้ตำรวจสนับสนุนการทำงานของทหาร ขอยืนยันการข่าวยังไม่พบมือที่ 3 ป่วนม็อบ แต่จัดแผน-กำลังเฝ้าระวัง ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่ ขอประเมินเป็นครั้งๆไปและขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่จะต้องช่วยสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา