กรมแรงงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลลูกจ้างได้รับผลกระทบจากเหตุอาคาร สตง.พังถล่ม ด้านตัวแทนผู้รับเหมาจาก 1 ใน 20 บริษัท เข้าสำรวจ-ติดตามความคืบหน้าการเยียวยา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568 นายสมโชค ทัศคร ตัวแทนจาก 1 ใน 20 บริษัทที่รับเหมาจากบริษัท china railway no.10 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารในโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ จตุจักร ถล่ม ขณะแผ่นดินไหว พร้อมเปิดเผย ว่า วันนี้ได้มีการลงพื้นติดตามความคืบหน้า การให้ความช่วยเหลือลูกจ้างของบริษัทที่สูญหาย โดยบริษัทของตัวเองเป็นเพียงผู้รับเหมารายย่อยของบริษัทดังกล่าวที่มารับงานในโครงการดังกล่าว ซึ่งในวันเกิดเหตุมีลูกจ้างของ บริษัทเข้าไปทำงานจำนวน 27 คน ที่ชั้น 29 ของอาคาร โดยรับหน้าที่เป็นสถาปัตยกรรม และล่าสุดพบว่ามีผู้สูญหาย 3 คน
โดย ขณะนี้นี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าทั้ง 3 คนนี้ ยังปลอดภัยดีหรือไม่ และบริษัทของตัวเองไม่ได้ขึ้นตรงกับบริษัท china railway no.10 แต่มีการประสานงานและมีการแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่จะเข้าช่วยเหลือ เริ่มต้นยังอยู่ในช่วงปรึกษาหารือในเรื่องของการเยียวยา แต่ยังไม่สามารถพูดอะไรมากได้ ต้องรอในระดับชั้นผู้บริหารเป็นผู้สรุป
นายสมโชค ยังระบุว่า ขณะนี้ยังคงมุ่งไปที่ประเด็นนำคนที่สูญหายออกมาให้ได้มากที่สุดโดยบริษัท china railway no.10 ได้มีการดำเนินการ และตัวเองยังไม่ได้มีการมีการพูดคุยกับทางฝั่งบริหาร โดยมีเพียงการพูดคุยกันเฉพาะพนักงานถึงขั้นตอนการดำเนินการ
ด้านนายบุญธรรม ศรีสมาน อำนวยการสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 ได้ลงพื้นที่มาพูดคุยกับบริษัทผู้รับเหมาที่ประสบเหตุ พร้อมเปิดเผยว่าวันนี้ได้มีการนัดพูดคุยกับผู้รับเหมาที่ทำงานโดยตรงประมาณกว่า 20 บริษัท เพื่อรวบรวมข้อมูลว่าในวันเกิดเหตุมีพนักงานบริษัทใดบ้างที่เข้าทำงาน บาดเจ็บกี่คน หรือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใด รวมทั้งมีผู้เสียชีวิต และผู้สูญหายกี่คน เพื่อพูดคุยสอบถามถึงการเยียวยาลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบทั้งจากบริษัทผู้รับเหมา และสิทธิประโยชน์จาหหน่วยงานรัฐ ส่วนบริษัทผู้รับเหมาหลักขณะนี้กระทรวงได้ดำเนินการแล้ว ส่วนตัวเองจะรับผิดชอบเฉพาะในส่วนของข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ข้อมูลที่มีครบถ้วนแล้วเพียงแต่ต้องการอัพเดทข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
เบื้องต้น ทราบว่ามีรายชื่อผู้เข้าปฏิบัติงาน 401 คน จำนวนนี้เป็นคนงานสัญชาติเมียนมา กัมพูชา ลาว และไทย แต่เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาพักเที่ยงทำให้มีผู้เข้าไปในพื้นที่ขณะเกิดเหตุประมาณ 128 คนเท่านั้น ซึ่งก็มีทั้งคนที่หนีออกมาได้ทันและไม่ทัน