‘สภาผู้บริโภค’ เรียกร้อง ‘OPPO-Realme’เปิดชื่อ‘ผู้อยู่เบื้องหลัง’แอปกู้เงิน ‘Fineasy-สินเชื่อความสุข’ จี้ช่วยเหลือผู้บริโภคแก้ปัญหาถอนแอปฯ
.........................................
จากกรณีที่สภาองค์กรของผู้บริโภค เผยแพร่ข้อมูลว่า ผู้ใช้โทรศัพท์หลายรายพบว่ามีแอปพลิเคชันกู้เงิน คือ แอปฯ ‘สินเชื่อความสุข’ หรือ ‘Fineasy’ ถูกติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ System App บนสมาร์ทโฟนยี่ห้อ OPPO และ realme โดยผู้ใช้งานโทรศัพท์ไม่สามารถลบแอปฯดังกล่าวออกจากเครื่องได้ และแอปฯยังสามารถส่งการแจ้งเตือนเชิญชวนให้กู้เงิน รวมถึงเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เช่น รายชื่อผู้ติดต่อและเบอร์โทรศัพท์ได้
ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค เรียกร้องไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลบุคคล (สคส.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า สภาผู้บริโภคขอเรียกร้องให้บริษัท OPPO และ Realme เร่งเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแอปกู้เงิน Fineasy และ ‘สินเชื่อความสุข’ ที่แอบติดตั้งมากับสมาร์ทโฟน โดยให้เปิดเผยข้อมูลว่า ใครเป็นผู้พัฒนาแอปฯ และใครเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเงินกู้ดังกล่าวด้วยพบข้อมูลจากผู้บริโภคที่ร้องเรียนเข้ามาที่สภาผู้บริโภคว่า มีการปล่อยกู้เงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและมีการติดตามทวงถามหนี้ที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้บริโภคจำนวนมากไม่สามารถถอนการติดตั้งแอปฯเหล่านี้ได้เอง เนื่องจากติดตั้งมาในระบบ (System App) ส่งผลให้เกิดความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและอาจนำไปสู่การถูกคุกคามทางการเงิน
นายอิฐบูรณ์ ย้ำว่า สภาผู้บริโภคขอเสนอให้ทั้ง บริษัท OPPO และ Realme ปรับปรุงระบบปฏิบัติการหรืออัปเดตแอปฯ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถถอนการติดตั้งได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเดินทางไปศูนย์บริการ เนื่องจากขณะนี้พบเสียงสะท้อนจากผู้บริโภคว่าการปลดล็อกแอปฯ ทำได้เฉพาะที่ศูนย์บริการขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างภาระให้ผู้บริโภค และหากบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ ควรจ่ายเงินเยียวยาค่าเดินทางค่าเสียเวลาให้ผู้บริโภค 2,000 บาทต่อราย เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาที่ศูนย์บริการ
“แม้ทั้งสองบริษัทจะออกแถลงการณ์ว่าจะแก้ไขปัญหาโดยการลบแอปฯ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม สภาผู้บริโภคจึงตั้งคำถามว่า การที่ OPPO และ Realme ไม่เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาดนั้น อาจเป็นเพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจหรือส่วนแบ่งรายได้ร่วมกับผู้พัฒนาแอปฯ กู้เงินเถื่อนหรือไม่ หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรแสดงความโปร่งใสด้วยการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจน” นายอิฐบูรณ์ ระบุ
สำหรับผู้บริโภคที่ตกเป็นเหยื่อของแอปกู้เงินเถื่อน “Fineasy” และ “สินเชื่อความสุข” หรือเป็นหนี้จากแอปฯ เหล่านี้ สภาผู้บริโภคแนะนำให้ชำระเฉพาะเงินต้นเท่านั้น หากถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือพบว่ามีพฤติกรรมทวงหนี้ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ สามารถแจ้งร้องเรียนมาที่สภาผู้บริโภคเพื่อขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือทางกฎหมายได้ โดยติดต่อสายด่วน 1502 หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ tcc.or.th
พร้อมกันนี้ นายอิฐบูรณ์ ยังได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่จะมีการประชุมร่วมกันในช่วงบ่ายของวันที่ 13 ม.ค.2568 เร่งกำหนดมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค และดำเนินการตรวจสอบบริษัท OPPO-Realme และลงโทษตามกฎหมาย รวมถึงผู้พัฒนาแอปฯ
โดยเฉพาะ กสทช. ควรมีบทบาทที่ชัดเจนในการเข้ามากำกับดูแลซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคในลักษณะเดียวกับกรณีซิมบ็อกซ์ (Sim Box) เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด ที่สร้างความเสียหายให้ผู้บริโภค ไม่ใช่กำกับดูแลเพียงแค่เรื่องสุขอนามัยด้านการใช้บริการโทรคมนาคมเท่านั้น ตามอำนาจหน้าที่ในประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม พ.ศ.2566 กำหนดชัดเจนว่าผู้รับใบอนุญาตต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลและความปลอดภัยของผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสภาผู้บริโภคจะดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายต่อไป หากยังไม่ได้รับการตอบสนองจากบริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง